วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

10 อาชีพเสี่ยงปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง

  1. วิศวกร มีพฤติกรรมก้มๆ เงยๆ และใช้คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เสี่ยงต่อการปวดกล้ามเนื้อบริเวณป่า สะบัก ต้นคอ หัวไหล่ รวมไปถึงข้อมืออีกด้วย
  2. ดีไซเนอร์ มีพฤติกรรมการขีดๆ เขียนๆ แบบเป็นเวลานานๆ เสี่ยงต่อการปวดกล้ามเนื้อบริเวณบ่าสะบัก ต้นข้อ หัวไหล่ ข้อมือ และอาจจะมีอาการของนิ้วล็อกร่วมด้วยได้
  3. แอร์โฮสเตส มีพฤติกรรมการทำงานที่ต้องยกของหนัก เอื้อมหยิบเก็บของบนที่สูง เข็นรถและเสิร์ฟอาหารเป็นประจำ จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการปวดกล้ามเนื้อบ่า สะบัก หัวไหล่ รวมไปถึงท่อนแขนได้อีกด้วย
  4. เซลส์แมน มีพฤติกรรมการยกของหนัก ขับรถเป็นเวลานาน ใช้คอมพิวเตอร์ คุยโทรศัพท์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เสี่ยงต่อการปวดกล้ามเนื้อบริเวณป่า สะบัก ต้นคอ หัวไหล่ ข้อมือ และอาจจะมีอาการของนิ้วล็อกร่วมด้วยได้
  5. นักคอมพิวเตอร์ มีพฤติกรรมก้มๆ เงยๆ ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เสี่ยงต่อการปวดกล้ามเนื้อบริเวณบ่า สะบัก ต้นคอ ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว อาจรวมไปถึงมึนศีรษะ อาเจียนซึ่งเป็นอาการของไมเกรนอีกด้วย
  6. นักบัญชี มีพฤติกรรมก้มๆ เงยๆ ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน และใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันกับตัวเลข เอกสารต่างๆ มากมาย จึงทำให้นักบัญชีมีความเสี่ยงต่อการปวดกล้ามเนื้อบริเวณบ่า สะบัก ต้นคอ ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว อาจรวมไปถึงอาเจียน ซึ่งเป็นอาการของไมเกรนอีกด้วย
  7. สถาปนิก มีพฤติกรรมการขีดๆ เขียนๆ ออกแบบ เขียนแบบเป็นเวลานานๆ เสี่ยงต่อการปวดกล้ามเนื้อบริเวณบ่า สะบัก ต้นคอ หัวไหล่ ข้อมือ มีอาการของนิ้วล็อกและขาแขนร่วมด้วยได้
  8. โฟร์แมน มีพฤติกรรมก้มๆ เงยๆ อยู่กลางแดดเป็นเวลานานๆ เสี่ยงต่อการเป็นโรคกล้ามเนื้อคอ บ่าอักเสบ ตาพร่า มีโอกาสเสี่ยงเป็นไมเกรนได้
  9. ทันตแพทย์ มีพฤติกรรมก้มๆ เงยๆ บิดตัว เอี้ยวตัว เกร็งข้อมือและนิ้วมือต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ส่งผลทำให้มีความเสี่ยงเป็นโรคปวดบ่า ต้นคอ สะบักหลัง รวมไปถึงอาจจะเป็นนิ้วล็อกได้
  10. ผู้บริหาร มีพฤติกรรมใช้งานคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ อีกทั้งมีความเครียดสูง มีผลทำให้กล้ามเนื้อต้นคอเกร็ง ส่งผลทำให้เลือดไปเลี้ยงศีรษะไม่เพียงพอ มึนศีรษะ ปวดขมับ ปวดกระบอกตา ตาพร่า นอนไม่หลับ จนส่งผลให้เป็นโรคปวดศีรษะเรื้อรังหรือไมเกรนได้

การที่จะหยุดความเสี่ยงต้องเปลี่ยนพฤติกรรม อย่าทำอาการซ้ำๆๆๆ จนรู้สึกปวดเมื่อยตามจุดต่างๆ การอยู่หน้าจอก็อย่าติดต่อกันเกิน 2 ชั่วโมง ควรหยุดพักและคลายเครียดเสียบ้าง โดยการใช้น้ำอุ่นประคบบริเวณที่ปวดและการทำสมาธิก็ช่วยให้ความเครียดลดลงไปได้

แหล่งที่มา นสพ. M2F วันพุธที่ 2 พ.ย. 54 (016)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...