- ช่วงบ่ายเหมาะสมที่สุด เพราะเท้าจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อผ่านการเดินมาตลอดทั้งวัน เนื่องจากเลือดไหวเวียนลงสู่เท้ามากขึ้น จึงเหมาะที่จะเลือกรองเท้า เพื่อป้องกันปัญหารองเท้าคับ
- เลือกขนาดเหมาะสม ส้นเท้าชิดส้นรองเท้าพอดี ส่วนหัวจะเหลือพื้นที่เท่ากับความกว้างของหัวแม่โป้งมือ เมื่อวัดจากนิ้วเท้าที่ยาวที่สุด ส่วนที่กว้างที่สุดของรองเท้าควรพอดีกับส่วนกว้างที่สุดของเท้า
- ใส่แล้วนิ่มสบาย ไม่มีตะเข็บแข็ง รองเท้าที่ทำจากหนังแท้มักมีความยืนหยุ่นและระบายอากาศดีกว่า
- ลองก่อนเสมอ ควรลองรองเท้าทั้งสองข้างและเดินไปมาด้วยว่าสบายเท้าหรือไม่
- เผื่อที่กันคับ อุปกรณ์เสริมในรองเท้าต่างๆ เช่น แผ่นรองเท้า แผ่นกันรองเท้ากัด ฯลฯ จะทำให้รองเท้าของคุณคับขึ้น หากต้องใช้อุปกรณ์เหล่านั้น ควรเลือกรองเท้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย
- ไม่คีบดีกว่า การใส่รองเท้าคีบทำให้เกิดการเสียสีบริเวณร่องนิ้วเท้า
- แบนไปไม่ดี ความแบนไม่เหมาะกับสรีระเท้าต่อการรับน้ำหนัก ควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นที่นิ่มและเสริมบริเวณอุ้งเท้า
- อย่าอยู่บนส้นสูงเกินสองชั่วโมง การใส่ส้นสูงนานๆ อาจมีปัญหาปวดฝ่าเท้าส่วนหน้า ควรใส่ส้นสูงเมื่อจำเป็น และไม่ควรใส่นานเกิน 2 - 3 ชั่วโมง
รองเท้าที่เหมาะสมในแต่ละคน
- นักกีฬา ควรเลือกซื้อรองเท้ากีฬาหลังจากเดินสักพัก หรือหลังจากเล่นกีฬาเสร็จ เพราะเท้าจะมีขนาดเดียวกันกับขณะเล่นกีฬา ควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นนิ่มและมีความยืดหยุ่นเพื่อรองรับแรงกระแทกได้ดี หากกีฬาที่เล่นใช้ปลายเท้าเป็นส่วนมาก เช่น การวิ่ง ควรเลือกรองเท้าที่ออกแบบให้รองรับแรงกระแทกส่วนหน้าโดยเฉพาะ
- คนเท้าแบน มีทั้งแบบถาวรและชั่วคราว ฝ่าเท้าแบนทำให้ปวดบริเวณกลางฝ่าเท้า เนื่องจากเอ็นซึ่งทำหน้าที่ยกอุ้งเท้าถูกดึงยึด ดังนั้นหากคุณเป็นคนฝ่าเท้าแบนชั่วคราว (คือเท้าแบนเมื่อเหยียบพื้นเท่านั้น) ควรสวมรองเท้าที่เสริมอุ้งเท้า (บริเวณพื้นรองเท้าเพื่อพยุงไม่ให้ส้นเท้าปิดและเท้าล้มเข้าด้านใน แต่หากฝ่าเท้าแบนถาวรซึ่งมักมีเท้าส่วนกลางกว้างกว่าปกติ ควรเลือกรองเท้าที่ด้านข้างกว้างและมีพื้นนิ่มใส่สบาย
- คนอุ้งเท้าสูง จะมีปัญหาปวดบริเวณฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้า เพราะการรับน้ำหนักของอุ้งเท้าส่วนกลางหายไป รองเท้าจึงควรมีลักษณะเสริมอุ้งเท้าส่วนกลาง (ยกนูนช่วงกลางฝ่าเท้าและเสริมอุ้งเท้า) เพื่อช่วยกระจายน้ำหนักจากฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้ามาที่อุ้งเท้า และควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นนิ่มและมีความยืดหยุ่น
- คนปวดส้นเท้า การปวดส้นเท้าส่วนใหญ่ เกิดจากจุดยึดพังผืดบริเวณส้นเท้าอักเสบ ซึ่งมักปวดมากในการเดินก้าวแรกหลังตื่นนอน เพราะพังผืดถูกยึดทันทีทันใด รองเท้าที่เหมาะกับปัญหานี้ ควรมีพื้นนิ่ม มีส้นเล็กน้อยเพื่อถ่ายน้ำหนักไปยังเท้าส่วนหน้า ควรใส่รองเท้าที่มีการเสริมอุ้งเท้า และนวดฝ่าเท้าก่อนลุกจากที่
- คนปวดฝ่าเท้าด้านหน้า ปัญหานี้พบบ่อยในผู้ที่ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำและผู้ที่มีภาวะหัวแม่เท้าเก ซึ่งหัวแม่เท้าไม่สามารถรับน้ำหนักได้ ภาระจึงตกอยู่กับฝ่าเท้าบริเวณนิ้วชี้ถึงนิ้วก้อย เมื่อร้บน้ำหนักนานๆ จึงทำให้ปวด ดังนั้นผู้ที่มีอาการนี้จึงควรใส่รองเท้าส้นเตี้ยมีพื้นนิ่ม และมีหน้ารองเท้ากว้าง เพื่อลดการบีบและเสียสีดของเท้า
- คนเป็นเบาหวาน ผู้ป่วยเบาหวานมักมีปลายประสาททำงานผิดปกติ ทำให้เท้าชา มีนิ้วหงิกงอ ทำให้ฝ่าเท้าด้านหน้ารับน้ำหนักมากและนิ้วเท้าเสียดสีกับหัวรองเท้า จึงควรเลือกใส่รองเท้าพื้นนิ่มมีหัวลึกและกว้าง ห้ามใช้รองเท้าคีบเพราะอาจทำให้เกิดแผลบริเวณร่องนิ้วเท้าได้โดยไม่รู้ตัว
เทคนิคเลือก "รองเท้า" ให้เข้ากับ "สีผิว"
แม้ว่าเท้าจะเป็นส่วนล่างสุด แต่ก็ไม่ควรละเลยเพราะการเลือกสีรองเท้าให้เข้ากับสีผิวนั้น จะช่วยขับผิวและชุดสวยๆ ของคุณให้ดูดียิ่งขึ้น เป็นการเสริมเติมเสน่ห์สาวๆ ได้อย่างดี
- สาวผิวสองสี : อาจจะเป็นปัญหาที่ทำให้สาวผิวน้ำผึ้งต้องกลุ้มใจ ฉะนั้นควรเลือกโทนสีผสมที่ไม่ดูร้อนแรง แต่ก็ไม่เย็นตาจนเกินไป เช่น สีน้ำตาลอมแดง สีเขียวอมฟ้า สีชมพูอมส้ม สีเลือดนก และสีชมพูหม่น เป็นต้น
- สาวผิวขาวซีด : ความกลุ้มใจที่ไม่เข้าใครออกใคร เพราะหลายคนมักมองว่าสาวผิวขาวซีดสุขภาพไม่ดี ดังนั้น เราควรจะเลือกโทนสีรองเท้าที่ค่อนข้างเข้มหรือหม่นเล็กน้อย เพื่อช่วยขับสีผิวให้ดูเข้มขึ้น เช่น เหลืองอมน้ำตาล น้ำตาลไหม้ และเหลือง-ครีม เพราะอาจทำให้ผิวดูซีดหมองลง
- สาวผิวขาวอมเหลือง : ผิวลักษณะนี้แนะนำว่าควรจะเลือกสีโทนร้อน เพื่อช่วยขับสีผิวให้ดูเปล่งประกายสดใส และทำให้เรียวขาดูโดดเด่นขึ้น แต่ห้ามสีขุ่นๆ อย่างสีน้ำตาลเข้ม หรือเทา เพราะจะทำให้ผิวดูซีดหมองลง
- สาวผิวขาวอมชมพู : ควรเลือกรองเท้าที่มีโทนสีสดใส เช่น ฟ้าอมเขียว ฟ้าใส เขียวมะนาว เพราะจะช่วยขับสีผิวให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น
แหล่งข้อมูลจาก : วารสาร Smart wealth, MFC, ISSUE 4 | January - March 2011