ถาม: เคยเป็นผู้ประกันตนแล้วลาออกจากงานก่อนอายุ 55 ปี จะมีสิทธิรับบำเหน็จหรือบำนาญไหม?
ตอบ: ต้องรอจนอายุครบ 55 ปีก่อนจึงจะมีสิทธิรับ ซึ่งเงินที่ออมไว้ช่วงทำงานก็ยังอยู่ครบ ... รอเวลาให้อายุครบตามเกณฑ์เท่านั้น
2)
ถาม: อายุ 55 ปีแล้ว แต่ยังทำงานอยู่ มีสิทธิรับบำเหน็จหรือบำนาญไหม?
ตอบ: ผู้ประกันตนมีสิทธิรับบำเหน็จหรือบำนาญก็ต่อเมื่อ
- อายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ และ
- สิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนแล้ว (เกษียณจากการทำงาน)
ถาม: หากลาออกจากงานก่อนอายุ 55 ปี ต้องรอให้อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์จึงมีสิทธิรับบำเหน็จ/บำนาญ... ระหว่างที่รอ ต้องจ่ายเงินเพื่อรักษาสถานะหรือไม่?
ตอบ: มี 2 ทางเลือก
- ไม่ทำอะไรเลย รออายุครบ 55 ค่อยมายื่นขอรับบำเหน็จ/บำนาญ
- สมัครเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ ตามมาตรา 39 เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ 6 กรณี (รวมทั้งเจ็บป่วยและชราภาพ) โดยสมทบเดือนละ 432 บาท*
4)
ถาม: สมทบประกันสังคมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 นับถึงวันนี้ เกิน 180 เดือนแล้ว มีสิทธิรับบำนาญแล้วใช่ไหม?
ตอบ: กองทุนประกันสังคมกรณีชราภาพเริ่มจัดเก็บเงินสมทบเมื่อเดือน ธ.ค. 2541 ดังนั้นในขณะนี้ยังไม่มีท่านใดสมทบครบ 180 เดือน จะมีผู้ประกันตนที่สมทบครบ 180 เดือนกลุ่มแรกในช่วงปลายปี 2556 ถึงต้นปี 2557 คาดว่า ในปี 2557 จะมีผู้มีสิทธิรับบำนาญกลุ่มแรกจำนวน 3,250 คน
5)
ถาม: ถ้าเคยขาดส่งเงินสมทบประกันสังคมไปช่วงหนึ่ง เพราะตกงาน แล้วกลับมาส่งต่อ จะกระทบกระเทือนต่อเงินบำเหน็จ/บำนาญหรือไม่?
ตอบ: เงินที่เคยสมทบไว้ในส่วนของ "เงินออมชราภาพ" ก็ยังอยู่ คิดง่ายๆ ว่า กองทุนประกันสังคมเป็นเหมือน “กระปุกออมสิน” สมมติว่าเคยสมทบไว้ 10 ปี แล้วหยุดส่ง ก็แปลว่าได้หยอดกระปุกไว้ส่วนหนึ่ง พอมาส่งใหม่ ก็จะนับต่อและถือว่าเป็นการออมเพิ่มจากที่เคยสมทบไว้
ขอย้ำอีกครั้งว่า "เงินออมชราภาพ" นี้ ผู้ประกันตนสมทบ 3% + นายจ้างสมทบให้อีก 3% รวมเป็น 6% ของค่าจ้าง มีเพดานค่าจ้างไม่เกิน 15,000 บาท ดังนั้น ในแต่ละเดือน ท่านจะได้ออมกับประกันสังคมสูงสุดเดือนละ 450 + 450 = 900 บาท
ดังนั้น ในยามปกติที่ท่านสมทบประกันสังคมอยู่สูงสุดเดือนละ 750 บาท (ยกเว้นในปี 2556 ท่านสมทบสูงสุดเดือนละ 600 บาท) ในนั้นมี "เงินออมชราภาพ" อยู่ 450 บาท
แหล่งที่มา Facebook : SSO Savings Club
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น