นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบัน
การแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)
กล่าวถึงการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน
ตามนโยบายรักษาทุกที่ดีทุกสิทธิ (EMCO) ว่า
ขณะนี้ ระบบการแพทย์ฉุกเฉินได้พัฒนาและ
ออกแบบให้ประชาชนคนไทยที่มีสิทธิการรักษาพยาบาล
ใน 3 กองทุน คือ
- กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง)
- กองทุนประกันสังคม และ
- กองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ
ทางการแพทย์ฉุกเฉินในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้
ซึ่งรวมถึงโรงพยาบาลเอกชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
จากนั้นแต่ละกองทุนจะตามจ่ายค่ารักษาพยาบาล
ให้ผู้ป่วยที่อยู่ในสิทธินั้นๆ เอง
ตลอด 4 ปี มีผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการดูแล
ตามสิทธิดังกล่าวมากกว่า 70,000 คน และ
จากผลสำรวจพบว่ามีความพึงพอใจสูง
แต่ยังมีปัญหาที่สำคัญคือ
มีการเรียกเก็บเงินค่ารักษาจากผู้ป่วยหรือญาติ
ด้วยเหตุผลหลายประการจนเป็นเหตุ
ให้เกิดการฟ้องร้องและยื่นเรื่องทวงถามไปยังรัฐบาล
ดังนั้นจึงต้องมีการทบทวนและปรับระบบให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ สพฉ.
จึงได้ร่วมมือกับนักวิชาการด้านระบบค่ารักษาพยาบาล
ออกแบบการคิดค่ารักษาพยาบาลและทำข้อเสนอ
เงื่อนไขต่างๆ พร้อมจัดประชุมร่วมกัน
กับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน
และผู้แทนจากทั้ง 3 กองทุน”
นพ.อนุชา กล่าว
ข้อสรุปร่วมคือ
- จะร่วมมือดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตตามระบบการแพทย์ฉุกเฉิน
ของโรงพยาบาลเอกชนโดยไม่คิดค่ารักษากับผู้ป่วย
แต่จะเบิกคืนจากกองทุนต่างๆ
โดยมี สพฉ.กำหนดอาการฉุกเฉินวิกฤต - การรักษาอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน
จะคิดค่ารักษาทุกรายการแทนการเหมาจ่าย
ใน 72 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้น
เป็นเรื่องที่แต่ละกองทุนกับโรงพยาบาลเอกชน
จะตกลงกันเอง - จัดระบบการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินไปยังโรงพยาบาลตามสิทธิ
เมื่อพ้นวิกฤต หรืออยู่จนครบ 72 ชั่วโมง อย่างมีประสิทธิภาพ - สพฉ.ร่วมกับ รพ.รามาธิบดี
จัดการอบรมการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตแบบมีส่วนร่วม
เพื่อให้แพทย์ พยาบาลห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลเอกชน
สามารถคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตตามเกณฑ์ที่ สพฉ.กำหนด
รวมทั้งจัดเตรียมศูนย์ประสานงาน
เพื่อให้แพทย์เวรประจำศูนย์ประสานงาน
สามารถช่วยการตัดสินเรื่องฉุกเฉินวิกฤต
ในกรณีที่แพทย์ พยาบาลหน้างานไม่แน่ใจ - เมื่อทุกฝ่ายยอมรับกับเงื่อนไขต่างๆ
สพฉ.จะเสนอให้คณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน
ออกเป็นประกาศให้ทราบโดยทั่วกันและ
ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบต่อไป และ - เตรียมตั้งกรรมการติดตามและปรับปรุงระบบการแพทย์ฉุกเฉิน
นอกจากนี้ ในพื้นที่พิเศษที่ห่างไกล
อาทิ พื้นที่เกาะ ภูเขา หรือพื้นที่ธุรกันดาร
ที่รถพยาบาลเข้าถึงยาก
ทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินต้องได้รับการเคลื่อนย้าย
ผ่านเรือกู้ชีพ หรืออากาศยาน ก็ได้รับสิทธิและ
ได้รับบริการฟรีเช่นกัน โดยแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 1669
แหล่งที่มา Facebook : มติชนออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น