- สินค้าที่มีในสต๊อค ถ้าสินค้าชนิดไหนขายไม่ดีก็ลองลดราคาสินค้าดู หรือผลิตต่อเมื่อมีคนสั่งจริงๆ เท่านั้น เพื่อลดจำนวนสินค้าคั่งค้างที่ขายไม่ออก
- ร้านค้า ลองติดต่อพาร์ทเนอร์ธุรกิจเพื่อดูว่าเขาสนใจช่วยรับภาระค่าใช้จ่ายในการผลิตบางส่วนเพื่อแลกกับส่วนลดสินค้าหรือไม่ หรือลองเจราจาต่อรองกับผู้จัดส่งวัตถุดิบว่าจะสามารถยืดหยุ่นการชำระเงินหรือให้ส่วนลดได้อะไรได้บ้าง วิธีนี้มักได้ผลโดยเฉพาะถ้าคุณเป็นลูกค้าที่มีประวัติการชำระเงินที่ดี
- พลังงาน ค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปกับค่าน้ำและค่าไฟนั้นมีตรงไหนบ้างที่สามารถประหยัดได้ มีทางเลือกหลายอย่างในการลดค่าใช้จ่ายด้านนี้ซึ่งทำได้ไม่ยาก ทั้งการปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อไม่ได้ใช้งาน หรือตั้งเวลาปิดเครื่องปรับอากาศ 30 นาทีก่อนการพักกลางวัน เป็นต้น
- พนักงาน ถ้ามีใครลาออกก็อย่าเพิ่งรีบจ้างคนใหม่ แต่ลองกระจายงานให้กับพนักงานที่เหลือ หรือไม่ก็จ้างพาร์ทไทม์ให้เข้ามาช่วงงานเป็นช่วงๆ
- อุปกรณ์สำนักงาน ยกเลิกสมาชิกนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ที่ไม่จำเป็น เมื่อต้องสั่งซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ก็พยายามหาร้านที่ให้ส่วนลด และเป็นอุปกรณ์ที่ทำได้หลายๆ อย่างภายในเครื่องเดียว เช่น เครื่องแฟ็กซ์ที่ถ่ายเอกสารได้ อีกวิธีที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายก็เช่นการหันมาใช้อีเมล์แทนกระดาษ เป็นต้น
- พื้นที่ หากคุณรู้สึกว่าค่าเช่าสำนักงานนั้นมีราคาที่สูงเกินไป ก็ลองหาพื้นที่ให้เช่าอื่นที่ราคาย่อมเยากว่า หรือลองเจรจาราคาที่พอสู้ได้กับผู้ให้เช่า
- ค่าเดินทาง หากต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างมากไปกับการเดินทางเพื่อไปประชุม ลองหันมาประชุมกันแบบออนไลน์ผ่านคอมพิวเตอร์เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านนี้กันดู
หากคุณอยากได้คนช่วยจัดการเรื่องนี้ก็ลองปรึกษาพนักงานบัญชีของบริษัท หรือเพื่อนฝูงที่ทำธุรกิจเช่นเดียวกับคุณ เพื่อดูว่าเขามีวิธีจัดการค่าใช้จ่ายภายในบริษัทกันอย่างไร การเข้ามาบริหารและดูแลค่าใช้จ่ายบริษัทของคุณวันนี้ จะช่วยสร้างคุณลักษณะการใช้จ่ายที่ดีให้แก่บริษัทในอนาคตได้อย่างแน่นอน
แหล่งที่มา เว็บไซต์ Facebook : MebyTMB
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น