วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

"ความรู้ในรั้ว" vs "ความรู้นอกรั้ว"

นอกจากให้ความรู้แล้ว
สิ่งที่คิดว่าโรงเรียนควรจะต้องสอนนักเรียนก็คือ
สอนให้พวกเขา "สนุก" กับการเรียนรู้

กี่คน ที่ตอนเรียนไม่อยากไปโรงเรียน?
กี่คน ที่เรียนจบแล้วขอลาขาด ไม่เอาอีกแล้วการเรียน?
กี่คน ที่หนังสือเล่มสุดท้ายที่อ่านคือหนังสือสอบตอนปี 4?

สาเหตุส่วนนึงก็เพราะ เราไปทำให้ "การเรียน = น่าเบื่อ"
ก็เลยไม่มีใครอยากเรียนรู้อีกเลย

ทั้งที่จริง เราจะสนุกมาก ถ้าได้เรียนรู้ในสิ่งที่เราชอบ
สอนความรู้ในผู้เรียน อย่างมากก็สอนได้ 20 กว่าปี

คำถามก็คือ แล้วชีวิตที่เหลือล่ะ จะตามไปสอนอย่างไร?
คำตอบก็คือ ต้องทำให้เขาเหล่านั้น "สนุก" ในการเรียนรู้ด้วยตัวเอง
นั่นล่ะ ที่จะทำให้ประเทศชาติจะพัฒนา
เพราะประชาชนรักการเรียนรู้
การเรียนต้องสนุก ลุกนั่งต้องสบาย

ไม่ใช่เอาความดุมากดทับผู้เรียน
เงียบ! อย่าเถียง! เดี๋ยวฟาดเลย!
ไม่ใช่เอาตำราเก่า ๆ มาให้ท่องจำ
เพราะยุคนี้ความรู้ใหม่ ๆ มีมาทุกวัน

"ความรู้ในรั้ว" กำลังจะกลายเป็นแค่ค่ามาตรฐานจากโรงงาน
คุณมีความรู้นั้น ใคร ๆ เขาก็มีความรู้นั้นเช่นเดียวกัน
อนาคต "ดอกเตอร์" จะเป็นค่าการศึกษาที่ใคร ๆ ก็จบกัน

"ความรู้นอกรั้ว" กำลังจะเป็นตัวแปรสำคัญที่วัดความต่างของคนสองคน
เพราะหลายเรื่องโรงเรียนไม่มีสอน
ที่ไม่มีสอน ก็เพราะผู้สอนก็ไม่รู้เรื่องนี้ เลยไม่รู้ว่าจะสอนอย่างไร
ที่เขียนมาทั้งหมด อย่าหวังรอให้ในรั้วเปลี่ยนแปลง
เพราะมันต้องใช้เวลา และไม่รู้จะเกิดขึ้นหรือไม่

เราต่างหาก  ที่ต้องดูแลตัวเองและลูกหลาน
หาความรู้ใส่ตัว ด้วยตัวเองเยอะ ๆ
อย่าไปรอคนอื่นมาป้อน อย่ารอคนอื่นเปลี่ยนแปลง

เราต่างหาก ต้องเปลี่ยน
การเรียนรู้นั้นสนุกมาก
อย่ารอให้ต้องใช้แล้วค่อยมาเรียน มันจะไม่ทันการ

ช่วงนี้หุ้นแดง นักลงทุนขาดทุนกันระนาว
แต่เชื่อเถอะ

ลงทุนให้ความรู้กับตัวเอง อย่างไรก็ไม่ติดดอย
เราไม่มีวันขาดทุนแน่นอน

แหล่งที่มา    Facebook : Boy's Thought

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...