ที่หนังสือหลาย ๆ เล่มพูดตรงกันก็คือ
"ยิ่งเราสามารถทำงานชิ้นนึงได้อย่างต่อเนื่องนานเท่าไหร่
เราก็ยิ่งประหยัดเวลาได้เท่านั้น
เพราะไม่ต้องเสียเวลามาตั้งสมาธิเริ่มใหม่"
แต่ฟังแล้วเหมือนตลกร้าย
ถ้าจะบอกว่า
สถานที่ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานน้อยที่สุด
สถานที่นั้นก็คือ "ที่ทำงาน"
! ที่ออฟฟิศนี่แหละให้ประสิทธิภาพงานต่ำสุด
ถามว่าทำไม?
ข้อแรก เมื่อเราจับคนมารวมกันเยอะ ๆ
ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้สาระหรอก คนเรารักสนุก เฮฮาปาจิงโกะ
ถามจริง ๆ เถอะ วันนึงคุณคุยเรื่องงานในที่ทำงานกี่ชั่วโมงกัน?
ข้อสอง ต่อให้เรามีสมาธิ ก็ไม่ได้หมายว่าเพื่อนร่วมงานจะมีสมาธิตามไปด้วย
เขาอาจจะเดินมาชวนคุยเรื่อยเปื่อย เสียงโทรศัพท์โต๊ะอื่นอาจจะดัง
ต่าง ๆ นานาเหล่านี้ทำให้แม้แต่คนที่ตั้งใจทำงาน ก็ยากที่จะมีสมาธิ
ข้อสาม จะว่าไปชั่วโมงการทำงานของเราถูกออกแบบมาอย่างพิลึก
ทำงานแป๊บเดียว พักเที่ยงอีกแล้ว
กินกลางวันขึ้นมาก็ท้องอิ่ม บ่าย ๆ คิดอะไรไม่ออก
มึน ๆ งงๆ เลยลงไปซื้อกาแฟ ซื้อผลไม้รวมมากินเล่น
สักพักก็นัดประชุม กว่าจะรวมตัวกันครบก็เลท
แล้วคุณก็รู้นี่ครับ ความคิดดี ๆ ไม่เคยเกิดขึ้นตอนประชุมกับคนเยอะ ๆ
สุดท้ายเราก็ประชุมกันว่าจะประชุมอะไรในครั้งหน้าดี
แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
ข้อสี่ สมองคนเราทำงานตั้งแต่ตื่น
แต่จะมาหยุดทำงานเมื่อมาถึงที่งาน
ฟังดูเสียดสี แต่บ่อยครั้งก็เป็นอย่างนั้น
กว่าจะตื่น กว่าจะเดินทางฝ่าฟันการจราจร
เราก็พลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับสมองไปแล้ว
นั่นคือ "2 ชั่วโมงแรก" ของวัน
เล่ามาทั้งหมดเพื่อจะบอกว่า
ในอนาคต บริษัทที่จะทรงประสิทธิภาพ
อาจต้องปล่อยให้พนักงานมีอิสระในการทำงาน
ทำงานที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้
ขออย่างเดียว "ให้งานเสร็จตามกำหนด"
ผู้คนจะไม่ถูกวัดด้วย Time-Based อีกต่อไป
แต่จะถูกวัดด้วย Mission Based แทน
แน่นอน ไม่ใช่ทุกตำแหน่งงานที่ทำแบบนี้ได้
แต่เชื่อว่าหลายตำแหน่งงานของบริษัทในอนาคตจะต้องเป็นแบบนี้
วัดกันที่เนื้องาน ไม่ใช่วัดกันที่ใครอยู่ออฟฟิศมากกว่ากัน
ที่ทำงาน ไม่เคยเวิร์ค
และมันจะยังคงไม่เวิร์คต่อไป
ส่วนคนที่ทำงานอิสระอยู่แล้ว
สิ่งที่คุณต้องระวังก็คือ
การถูกรบกวนด้วย Social Media ทั้งหลาย
วันนึงคุณจับมือถือขึ้นมาดูกี่ครั้ง? เยอะมาก
ทำงานแป๊บนึง ก็มีเสียงเด้งเตือน
เปิด FB ดูหน่อย อ่าน LINE รูดจอดู IG
พวกนี้คือ "ตัวขโมยเวลา" และทำให้เราไม่มีสมาธิสุด ๆ
วิธีแก้คือ ปิดเสียงเตือน เปิดดูวันละ 2-3 ครั้งก็พอแล้ว
"ยิ่งเราสามารถทำงานชิ้นนึงได้อย่างต่อเนื่องนานเท่าไหร่
เราก็ยิ่งประหยัดเวลาได้เท่านั้น
เพราะไม่ต้องเสียเวลามาตั้งสมาธิเริ่มใหม่"
เป็นเคล็ดลับง่าย ๆ ในการบริหารเวลา
เพราะเวลาคือชีวิต
เพราะชีวิตคือเวลา
ใช้มันให้คุ้มค่า
อย่าให้เราขโมยเวลาเราไปเองนะ
แหล่งที่มา Facebook : Boy's Thought
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ตอน 37 ลาก่อนทองแดง
ตอน 36 อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...
-
ใครที่นึกเบื่อตลาดติดแอร์ แต่ชื่นชอบตลาดเปิดท้ายรวมถึงของขายแบกกะดินราคาถูก หรือร้านขายตามล็อกหลากหลายแนว มาทอดน่องช็อปให้เพลินที่ "ต...
-
การจ่ายเงินรายได้ไม่ครบถ้วน ว่าจริงๆ แล้วเงินที่ทางผู้จ้างได้จ่ายให้ผู้รับจ้างไม่ครบนั้น เพราะว่าทางผู้จ้างได้หักภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น