วันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557

ความฝันกับเงินตรา

ความฝันกับเงินตรา คือสองสิ่งที่เอามาคู่กันแล้วฟังดูกระดากปากลำบากใจ

ฟังดูหยาบคายมาก
ถ้าจะเอาเรื่องโรแมนติกอย่าง "ความฝัน"
มาพูดกับเรื่องที่ฟังดูไม่ค่อยดีอย่าง "เงินตรา"

แต่ว่ากันตรงๆ แทบจะทุกฝันต้องใช้เงินทั้งนั้น
ว่ากันตั้งแต่ของที่จับต้องได้อย่าง รถ บ้าน สิ่งของ ท่องเที่ยว ฯลฯ
ไปจนถึงของที่จับต้องไม่ได้อย่าง อยากให้พ่อแม่สบาย อยากสร้างอนาคตให้ลูก หรือแม้แต่การช่วยเหลือสังคม ที่ถ้ามีแรง มีใจ และมีเงินด้วย ก็ย่อมดีกว่าแน่ๆ

ประเด็นที่อยากจะลือก็คือ
ถ้าเรายอมรับในเงื่อนไขแล้วว่า "แทบทุกฝันต้องใช้เงิน"

คำถามก็คือ "แล้วมันใช้เงินเท่าไหร่?"
คำตอบนี้ล่ะที่เราต้องจดไว้บนข้างฝากันลืม
เพราะบางครั้ง "ความฝัน" มันก็โรแมนติกเกินจนจับต้องไม่ได้

แต่ "เงินตรา" จะแปรเปลี่ยนให้เราจับต้องฝันได้
เชื่อมั้ย ว่าหนึ่งในเหตุผลโง่ๆ ที่หลายคนไปไม่ถึงฝัน
ไม่ใช่หมดความพยายามก่อน
แต่เรามักจะเอาเงินไปใช้อย่างอื่นก่อน

อย่างอื่นที่ไม่ใช่เป้าหมายของเรา
ถ้าเรามีเป้าหมายคือบ้านในฝัน
แต่มือถือรุ่นใหม่ออกปุ๊บ วันแรกก็ไปถอยมาแล้ว
แบบนี้เมื่อไหร่จะถึงฝัน?

ถ้าเรามีเป้าหมายคือเที่ยวรอบโลก
แต่ช้อปกระหน่ำทุกซัมเมอร์เซลล์
แบบนี้เมื่อไหร่จะถึงฝัน?

ถ้าเรามีเป้าหมายคืออยากเลี้ยงดูพ่อแม่
แต่เราไม่เคยเก็บเงินเลยสักเดือน
แบบนี้เมื่อไหร่จะถึงฝัน?

ถ้าเรามีเป้าหมายคืออิสรภาพ
ลาออกไปเปิดร้านเล็กๆ ในฝัน
แต่ตกเย็นเรากินเที่ยวเล่น ใช้เงินตลอด
แบบนี้เมื่อไหร่จะถึงฝัน?

ถ้าเรายังทำแบบนั้นอยู่เรื่อยๆ
ใช้คำว่า "ทรยศต่อความฝันตัวเอง" ก็คงจะไม่เกินไป

บางครั้ง อยากจะคิดว่า
ฝันที่ตีเป็นราคาไม่ได้
บางทีมันก็แค่ฝันกลางวันอันเลื่อนลอย
ที่น้อยโอกาสจะเป็นจริง

! ลองถามตัวเองดูว่า
ฝันของเราราคาเท่าไหร่?

จากนั้นอย่าให้นิสัยการใช้เงินของเรา
ดึงฝันของเราให้ถอยห่างออกไปจนสุดมือคว้า
จากสิบเป็นร้อย พัน หมื่น แสน ล้าน
แล้วก็จะถึงวันที่ฝันเราเป็นจริง

ว่าแต่...ฝันของคุณราคาเท่าไหร่?

แหล่งที่มา   Facebook : Boy's Thought

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...