- คิดว่าการแต่งงานคือแฮปปี้เอนดิ้งเหมือนในนิทาน ทั้งที่จริงมันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
ถ้าดูแลไม่ดี มันอาจเป็นเอนดิ้งของแฮปปี้ - คิดว่าชีวิตจริงสวยเหมือนพรีเซนเตชั่นในงานแต่ง ทั้งที่จริงไม่มีรักไหนที่ดีทุกวัน
วันที่ไม่สวยงามต่างหากที่พิสูจน์ใจ - คิดว่าการแต่งงานคือเรื่องของคนสองคน ทั้งที่จริงมันคือสองครอบครัวใหญ่มารวมกัน
ซึ่งต้องหาจุดพอดีระหว่างแม่ผัวลูกสะใภ้ - คิดว่าตัวเองมีคาถาวิเศษ เปลี่ยนนิสัยที่อีกคนเคยเป็นมาได้ ทั้งที่จริงเราต้องเรียนรู้กันและกัน
และยอมรับข้อเสียอีกฝ่ายตั้งแต่แรกคบ - คิดว่าตัวเองคือศูนย์กลางจักรวาล อีกฝ่ายต้องหมุนรอบฉัน ฉันจะไม่เปลี่ยนอะไรทั้งนั้น
ทั้งที่จริงเราต่างต้องปรับตัวเข้าหากัน - คิดว่าอีกฝ่ายมีคาถาอ่านใจได้ ไม่ต้องให้บอก ก็น่าจะรู้ใจ
ทั้งที่จริงอยากได้อะไรก็ให้พูด ไม่ชอบอะไรก็ให้บอก
แบบนี้ง่ายกว่าเดาใจกันเยอะ - คิดว่าตัวเองเป็นสงครามตะวันออกกลาง
ทะเลาะกันยืดเยื้อยาวนาน ขุดเรื่องเก่ามาฟื้นฝอยหาตะเข็บ
ทั้งที่จริงเรื่องมันจบไปนานแล้ว เราต้องก้าวต่อไป - คิดว่าอีกฝ่ายเป็นมนุษย์ล่องหน เริ่มไม่มองไม่คุยกัน
ทั้งที่จริงนี่คือคนที่เราเลือกมาเป็นคู่จนวันสุดท้าย - คิดว่าการมีลูกคือโซ่ทองคล้องใจ ทั้งที่จริงถ้าไม่พร้อม ถ้าไม่คิดให้ดี
ถ้าไม่เข้าใจว่าเราอาจเลิกกันได้ แต่เลิกเป็นพ่อแม่ไม่ได้
นั่นจะกลายเป็นปัญหาสังคมในเวลาต่อมา - คิดว่าตัวเองมีไทม์แมชชีน วันนี้ยังไม่ต้องทำดีต่อกันก็ได้
ทั้งที่จริงเรื่องบางอย่าง เราไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไข กว่าจะคิดได้ก็สายเสียแล้ว
แหล่งที่มา Facebook : Boy's Thought
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น