ตอนเราไปสัมภาษณ์งาน
บริษัทนั้นเข้มข้นในการคัดเลือกพนักงานเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
แต่ตัวเราเองนั่นล่ะ
ที่อาจจะลืมถามตัวเองว่า
"แล้วเราเข้มข้นในการหาบริษัทที่จะพาเราไปสู่ชีวิตที่ดีกว่ามั้ย?"
หลายคนไม่รู้ว่าที่ชีวิตเขายังไม่ไปไหนมาไหน
ทั้งที่ตั้งใจทำงานเต็มที่แล้ว
บางทีคำตอบมันอาจจะเพราะ "เขาแค่อยู่ไม่ถูกที่"
แน่นอน ถ้าชีวิตมันยังดูแย่ๆ
อย่าเพิ่งโทษเพื่อน โทษที่ทำงานเป็นอันดับแรก
ให้สำรวจตัวเองก่อนว่า
เรายังต้องแก้ตรงไหน เพิ่มอะไร ลดอะไร
ต่อเมื่อแก้แล้ว ทำทุกอย่างแล้ว อะไรๆ ก็ยังไม่ดีขึ้น
นั่นจึงค่อยมองดูว่า
เพื่อนร่วมงานของเรานั้น จะช่วยพากันไปถึงฝั่งฝันมั้ย?
บริษัทที่เราทำงานด้วยนั้น จะพาเราไปถึงฝั่งฝันมั้ย?
และต่อไป คือ 10 ข้อที่ คิดว่าบริษัทไหนมีอาการแบบนี้ยากที่จะเจริญก้าวหน้า
======================
10 สัญญาณหายนะของบริษัทที่ "ทราบแล้วต้องเปลี่ยน!"
1. พนักงานชอบแบ่งแยกเป็นก๊ก จับกลุ่มนินทา
ถ้าเพื่อนร่วมงานคุณเป็นแบบนี้
เค้าจะเอาหัวสมองที่ไหนมาคิดเรื่องงานล่ะ ?
บริษัทเป็นเรื่องของการทำงานเป็นทีม
ถ้าทีมที่คุณอยู่เป็นแบบนี้ คุณเหนื่อยแน่
2. พนักงานใช้ทรัพยากรบริษัทสิ้นเปลือง
ไม่ช่วยกันรักษาผลประโยชน์ของบริษัท
ถ้าเป็นแบบนี้ แสดงว่าไม่มีใครมีจิตวิญญาณเถ้าแก่เลย
บริษัทแบบนี้รอวันเจ๊ง เพราะมีแต่พนักงานทำงานรอรับเงินเดือน
3. กฏไม่เป็นกฏ กฏมีไว้อย่างนั้น ไม่มีใครสน
จำไว้ว่าเมื่อคนหลายคนมาอยู่รวมกัน กฏเป็นเรื่องสำคัญ
บริษัทไหนกฏไม่เข้มงวด พนักงานรู้ว่าฝ่าฝืนได้ ไม่เป็นไร
ถ้ามาสาย พักเที่ยงนาน กลับบ้านก่อน ก็ไม่มีใครว่า
แบบนี้บริษัทจะคุมคนไม่อยู่ และจะไม่มีใครฟังคำสั่งใครอีกต่อไป
4. คนทำผิด แต่ไม่ได้รับการลงโทษ
ผิดก็คือผิด คนเป็นนายต้องกล้าใจร้ายในเวลาที่ควรใจร้าย
บางตำราถึงกับบอกว่า
เจ้านายที่ยังไม่เคยไล่ใครออก ยังไม่ใช่เจ้านาย
บริษัทก็เหมือนประเทศที่ต้องมีขื่อมีแป
ถ้าคนทำผิดแล้วยังลอยนวลได้ แบบนั้นบริษัทจะเสียคุณธรรม
5. คนทำดี แต่ไม่ได้รับการชื่นชม
สำหรับมนุษย์แล้ว สิ่งที่มากกว่าเรื่องเงินทอง คือ "เกียรติยศ"
คำชื่นชมจึงเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจชั้นดี
บางคนบอกว่า สังคมแย่เพราะคนดีท้อแท้
บริษัทก็ไม่ต่างกับสังคม
6. เจ้านายให้หน้าที่ แต่ไม่มอบอำนาจให้
เป็นปัญหาคลาสสิกตลอดกาลของคนขยันทำงาน
เมื่อได้รับมอบหมายงานมา แต่ไม่สามารถตัดสินใจได้เอง
เพราะอำนาจรวมศูนย์อยู่ที่เจ้านาย
บริษัทที่เป็นแบบนี้จึงมักสูญเสียคนขยันทำงานไปในที่สุด
7. เจ้านายตัดสินใจไม่เด็ดขาด
ผู้นำจำเป็นต้องตัดสินใจในภาวะคับขัน
และต้องยอมรับถึงผลที่จะตามมา หากตัดสินใจผิดพลาด
การตัดสินใจที่แย่ที่สุดก็คือการไม่ตัดสินใจอะไรเลย
บริษัทแบบนี้ คนสนองนโยบายจะปวดหัวและทำงานไม่ถูก
8. เจ้านายรู้ไม่ทันลูกน้อง
แบบนี้เข้าตำราถูกลูกน้องตลบหลัง หลอกใช้ เอาเปรียบบริษัท
มากกว่าอำนาจการปกครอง จึงต้องมีไหวพริบรู้ให้ทันด้วย
เพราะถ้าลูกน้องรู้ว่าเจ้านายตามไม่ทัน
บริษัทจะยิ่งโดนเอาเปรียบไปเรื่อยๆ
9.เจ้านายไม่มีวิสัยทัศน์
ผู้นำต้องมองการณ์ไกล เห็นไปในอนาคตว่าอะไรจะเกิดขึ้น
บริษัทที่คิดเล็ก เอาตัวรอดไปเดือนนึงๆ
จึงไม่อาจพาใครให้เจริญก้าวหน้าได้
10.บริษัทไม่มีภารกิจที่ชัดเจน
เมื่อคนหลายคนมาอยู่รวมกัน นอกจากเรื่องกฏระเบียบแล้ว
เรื่องของเป้าหมายก็มีความจำเป็นไม่น้อย
ถ้าพนักงานไม่รู้ว่าบริษัทนี้เขายกย่องในคุณค่าเรื่องอะไร
เขาอยากช่วยให้ประเทศนี้ โลกนี้ดีขึ้นอย่างไร
บริษัทนั้นก็จะมีแต่พนักงานทำตาลอยๆ ไปวันๆ
=====================
เราไม่ใช่กบเลือกนาย
แต่เป็นคนที่รู้จักเลือกบริษัทและเพื่อนร่วมงาน
ถ้าบริษัทยังไม่เปลี่ยน
ถ้าเพื่อนร่วมงานเรายังไม่เปลี่ยน
เรานั่นล่ะ ที่จำเป็นต้องเปลี่ยนบริษัทและเพื่อนร่วมงาน
แหล่งที่มา Facebook : Boy's Thought
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ตอน 37 ลาก่อนทองแดง
ตอน 36 อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...
-
ใครที่นึกเบื่อตลาดติดแอร์ แต่ชื่นชอบตลาดเปิดท้ายรวมถึงของขายแบกกะดินราคาถูก หรือร้านขายตามล็อกหลากหลายแนว มาทอดน่องช็อปให้เพลินที่ "ต...
-
การจ่ายเงินรายได้ไม่ครบถ้วน ว่าจริงๆ แล้วเงินที่ทางผู้จ้างได้จ่ายให้ผู้รับจ้างไม่ครบนั้น เพราะว่าทางผู้จ้างได้หักภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น