รายได้ 10,000 บาทจะจัดการชีวิตอย่างไร!!
ช่วงนี้มีหลายคนหลังไมค์มาปรึกษาเรื่องการออมเงิน เลยคิดว่าน่าจะนำข้อความที่เคยเขียนมาเล่าให้ฟังอีกสักครั้ง ในช่วงหนึ่งของชีวิตเคยมีรายได้ประมาณ 10,000 บาทต่อเดือนจากการเปลี่ยนงานใหม่ และทันทีที่รายได้ลดลง สิ่งที่ตามมานั่นคือ "เราต้องประหยัดรายจ่ายทันที!!!"
กินข้าว (ใน) ที่บ้าน : วิธีการประหยัดรายจ่ายได้ดีอีกทางหนึ่ง เนื่องจากที่บ้านมีอาหาร (เหลือ) อยู่แล้ว อาหารเช้าในวันนี้คืออาหารเย็นของเมื่อวาน ส่วนอาหารเย็นของวันนี้ก็คืออาหารใหม่ และจากการที่บ้านทำอาหารทานเองอยู่แล้ว ยิ่งมีคนกินเพิ่ม ค่าอาหารต่อหัวคิดแล้วก็จะถูกลง (ใครทำอาหารทานเองคงจะเข้าใจว่าถ้าทำทานคนน้อยๆ มันเปลืองกว่า) ทำให้ลดรายจ่ายค่าอาหารนอกบ้านไปได้ ซึ่งข้อดีก็คือ การประหยัดทั้งเงิน แถมยังมีเวลาให้ครอบครัวด้วย โดยเฉพาะการกลับมากินมื้อเย็นที่บ้าน ได้พบปะเฮฮา พูดจากันในครอบครัวบ้าง ถือเป็นเรื่องราวดีๆอีกเรื่องหนึ่งเลยล่ะ
ประหยัดอาหารเที่ยง : เป็นความโชคดีที่รอบๆ ที่ทำงาน มีค่าครองชีพในการใช้ชีวิตต่ำกว่าย่านออฟฟิศ ไม่มีกาแฟชื่อดัง Starbuck โอปองแปง หรือแม้แต่ร้านชานมไข่มุก รวมถึงค่าอาหารกลางวันก็ถูกกว่ามาก ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ค่อนข้างเยอะ เหลือเพียงมื้อละไม่เกิน 50 บาท/วัน แค่นั้นเอง
ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง : เนื่องจากระยะทางของที่ทำงานใหม่ใกล้บ้านมากกว่าที่ทำงานเดิม แถมหลังจากเลิกงานก็เก็บกระเป๋าบึ่งรถกลับบ้านทันที (เพราะจะรีบกลับไปให้ทันกินข้าวเย็นบ้าน - -") ไม่มีการแวะนอกลู่นอกทาง ดังนั้นค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็ลดลงบ้าง แต่ยังไม่มากเท่าไรนัก เนื่องจากยังขับรถอยู่ ถ้าสามารถเปลี่ยนมาเป็นรถโดยสารสาธารณะได้ก็คงจะประหยัดได้มากกว่านี้เยอะ
ลดขนมจุกจิกและค่าใช้จ่ายจิปาถะ : ขนมจุกจิกที่ชอบกินสมัยทำงานเอกชน ตัดสินใจหักดิบโดยเลิกกินทันที (อารมณ์เหมือนเลิกยาเสพติดยังไงอย่างนั้น) แต่ความเป็นจริงก็ยังหักดิบไม่ได้ 100% เราจึงต้องให้รางวัลตัวเองซะหน่อย เมื่อมีเงินเหลือในบางครั้งบางคราว และที่สำคัญการลดอาหารจุกจิกพวกนี้ทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วย เป็นการลดค่าหมอรักษาพยาบาลในอนาคตไปในตัว ไม่ต้องไปเจอคุณหมอบ่อยๆ (ฮา)
เงินออมต้องไม่ขาด : ยังคงวางแผนใช้หลักการออมเงินแบบ "ลบสิบ" อยู่ แม้ว่าจะมีเงินเดือนน้อยก็ตาม ซึ่งประสบการณ์ที่ผ่านมาได้สอนให้ไม่ประมาทในการใช้เงิน ถึงแม้จะมีรายได้น้อยแค่ไหนก็ตาม เราไม่ควรจะขาดข้อนี้นะ (ถ้าไม่สามารถทำได้ทุกเดือน อย่างน้อยก็ขอให้ทำตามให้ได้มากที่สุดแล้วกัน)
สำหรับเงินส่วนที่เหลือนั้น จะเป็นเงินที่นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำทั่วๆ ไป เช่น ซื้อของใช้ เสื้อผ้า กินข้าวนอกบ้านกับเพื่อนบ้าง ปาร์ตี้สังสรรค์บ้าง ฯลฯ เล็กๆน้อยๆ ตามประสา เพราะชีวิตจริงของคนเราคงไม่สามารถขาดเรื่องพวกนี้ได้ เพียงแต่ว่า ต้องคอยมี “สติ” มา “จำกัด” กิเลสพวกนี้ให้น้อยลงเท่านั้นเอง
หวังว่จะมีประโยชน์บ้างนะ
แหล่งที่มา Facebook : TaxBugnoms
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ตอน 37 ลาก่อนทองแดง
ตอน 36 อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...
-
ใครที่นึกเบื่อตลาดติดแอร์ แต่ชื่นชอบตลาดเปิดท้ายรวมถึงของขายแบกกะดินราคาถูก หรือร้านขายตามล็อกหลากหลายแนว มาทอดน่องช็อปให้เพลินที่ "ต...
-
การจ่ายเงินรายได้ไม่ครบถ้วน ว่าจริงๆ แล้วเงินที่ทางผู้จ้างได้จ่ายให้ผู้รับจ้างไม่ครบนั้น เพราะว่าทางผู้จ้างได้หักภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น