วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

มี Vs ไม่มี

มีนาฬิกาแพง ๆ แค่ไหน
ก็ซื้อเวลาไม่ได้

มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน
ก็ซื้อความอบอุ่นในครอบครัวไม่ได้

มีรถราคาแพงแค่ไหน
ก็ซื้ออิสระในการไปไหนมาไหนไม่ได้

มีเงินมากแค่ไหน
ก็ใช่ว่าจะซื้อความสุขได้

เพราะฉะนั้น
ชีวิตนี้เกิดมาแล้ว....
ก็ขอให้ได้มีนาฬิกาสวย ๆ แพง ๆ ใส่
มีบ้านหลังใหญ่ ๆ สนามหญ้าสวย ๆ
มีรถดี ๆ แพง ๆ เอาไว้ขับ
มีเงินเยอะ ๆ เอาไว้ใช้เองบ้าง บริจาคบ้าง
แบบนี้น่าจะคุ้มกับที่เกิดมามากกว่า

เพราะมีนาฬิการาคาถูก
ก็ซื้อเวลาไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ

เพราะมีบ้านหลังเล็ก
ก็ซื้อความอบอุ่นไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ

เพราะมีรถเก่า ๆ ถูก ๆ
ก็ซื้ออิสระไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ

เพราะมีเงินน้อยก็ซื้อความสุขได้บ้างไม่ได้บ้างเหมือนกันนั่นแหละ
อย่ารีบตะครุบเอาสิ่งเหล่านี้ มาเป็นข้ออ้างแห่งความไม่สำเร็จ
อย่ารีบคว้าเอาสิ่งเหล่านี้ มาเป็นข้ออ้างว่าไม่เห็นอยากได้เลย
ถ้าไม่หลอกตัวเอง ใคร ๆ ก็อยากใช้ของดี ๆ
อยากอยู่บ้านหลังใหญ่ มีรถคันสวย มีเงินใช้ไม่ขาดมือกันทั้งนั้น

จริงอยู่ ที่ "วัตถุ" ไม่อาจให้ความสุขทุกอย่างในชีวิตได้
แต่การไม่มี "วัตถุ" ในหลายครั้ง
ก็ให้ความทุกข์บางอย่างกับชีวิตเช่นกัน

ถ้าคุณเคยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ๆ มีบริเวณให้ลูกวิ่งเล่น
คุณจะรู้ว่ามันน่าอยู่กว่าทาวน์เฮ้าส์หรือห้องเช่าแค่ไหน

ถ้าคุณเคยนั่งรถราคาแพง ๆ
คุณจะรู้เลยว่ามันน่าขับและปลอดภัยกว่ารถกระป๋องแค่ไหน

ถ้าคุณเคยมีเงินเยอะ ๆ
คุณน่าจะนึกออกว่า
สมองมันปลอดโปร่งกว่าตอนไม่มีเงินแค่ไหน

ไม่ได้สนับสนุนให้คุณบ้าวัตถุ บ้าเงิน

อย่างไรเสีย "ความสงบใจ"
ก็คือความสุขสูงสุดของมนุษย์

แต่แนวคิดที่ชวนทุกคนมา "หด" ศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวเรา
ด้วยการบอกว่ามีเงินก็ซื้อความสุขไม่ได้
มีบ้านหลังใหญ่ก็ซื้อความอบอุ่นไม่ได้
ไม่รู้ว่าเขาต้องการจะบอกอะไร

ไม่มีเงิน ซื้อความสุขได้อย่างนั้นเหรอ?
มีห้องเช่าเท่ารูหนู ซื้อความอบอุ่นได้อย่างนั้นเหรอ?
เอ้า! ทุกคนมาอยู่เฉย ๆ หายใจเบา ๆ เลิกไขว่คว้ากันเร้ว
แบบนี้มันใช่เหรอ?

เราอยู่ในโลกทุนนิยมมานานแล้ว
หนีมันไม่พ้นหรอก
แต่อยู่ที่เราจะรับมือกับมันอย่างไรมากกว่า

ถ้าคุณไม่ได้อยากได้เงินเต็มในบัญชีธนาคาร
ถ้าคุณไม่ได้อยากซื้อนาฬิกาแพง ๆ
ถ้าคุณไม่ได้อยากซื้อรถแพง ๆ ซื้อบ้านหลังใหญ่
คุณก็เอาเงินที่คุณหาได้มา ไปช่วยเหลือผู้คนสิ

โลกนี้ยังต้องใช้เงินอีกเยอะ เงินช่วยผู้คนได้
จริง  เงินซื้อทุกอย่างไม่ได้
แต่เงินซื้อยารักษาโรคให้ผู้ป่วยอนาถาได้
แต่เงินซื้อผ้าห่มให้คนยากไร้ที่เหน็บหนาวได้
แต่เงินซื้ออาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนที่ขาดแคลนได้
แต่เงินซื้อการศึกษาให้คนที่ด้อยโอกาสได้

ถ้าเงินไม่สำคัญสำหรับคุณ
จงหาเงิน แล้วเอาเงินนั้นมอบให้คนอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือ
ไม่ใช่คุณหาเงินไม่เก่ง แล้วเที่ยวบอกคนอื่นว่าเงินไม่สำคัญ
แบบนั้นมันองุ่นเปรี้ยวชัด ๆ
คุณว่ามั้ยล่ะ ?

แหล่งที่มา     Facebook : Boy's Thought

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...