หลายคนเคยถามมาว่า ค่าเช่าที่ตัวเองจ่ายอยู่นั้น แพงไปรึเปล่า
และคำตอบที่จะให้กับทุกคนคือ
ค่าเช่าไม่มีคำว่าถูกหรือแพง
แต่เราสามารถใช้เรื่องค่าเช่า มาบอกได้ว่า ร้านชองคุณกำลังอยู่ในสภาวะไหน มีผลประกอบการดีหรือไม่
เพราะต่อให้คุณจ่ายค่าเช่าเดือนละแสนแต่ขายได้เดือนละล้าน แสนนั้นก็ถือว่าไม่แพง
แต่ถ้าคุณจ่ายเดือนละ 5,000 แต่ขายได้ 10,000 คุณก็คงไม่รอด
ตามมาตรฐานสำหรับธุรกิจ reatil "ค่าเช่า" ควรอยู่ในอัตรา 12-15% ของยอดขายสุทธิ หมายความว่า ถ้าธุรกิจของคุณมียอดขายสุทธิ หลังหักส่วนลดแล้ว 100 บาท ร้านของคุณไม่ควรจ่ายค่าเช่าเกิน 15 บาท
(คนที่ทำบัญชีอยู่ คงพอนึกภาพงบกำไร/ขาดทุนออกนะครับ ส่วนท่านที่ยังนึกไม่ออก แนะนำให้ไปศึกษาด่วน")
คำแนะนำสำหรับการเอาเรื่องค่าเช่ามาช่วยในการบริหารธุรกิจ มีดังนี้
1. สำหรับคนที่ยังไม่ได้เปิดร้าน และมองหาทำเลอยู๋ ให้เอาค่าเช่ากับกำไรต่อหน่วยจากการขายมาลองคำนวณความเป็นไปได้ดูว่า ถ้าเปิดร้านตรงนี้ ด้วยค่าเช่าราคานี้ ร้านของคุณจะอยู๋ได้หรือไม่ ถ้าคิดแล้วเกิน 15% แสดงว่าคุณค่อนข้างจะเสี่ยงที่จะเปิดร้านตรงนั้น
ตัวอย่างวิธีคิด
คุณอยากเปิดร้านกาแฟหน้าศาลากลางจังหวัด
ค่าเช่าเดือนละ 20,000 บาท
ราคากาแฟแก้วละ 50 บาท โดยเฉลี่ย
ร้านเปิด 7 โมงเช้า - 4 โมงเย็น รวม 9 ชั่วโมง
ประมาณการยอดขาย วันละ 100 แก้ว หรือประมาณชั่วโมงละ 10 แก้ว
ร้านเปิด 22 วัน/เดือน อย่างลืมคิดเรื่องจำนวนวันเปิด/ปิดด้วย เพราะบางทำเล ไม่ได้เปิดขายได้ทุกวัน
คำนวณดูก็จะพบว่า ยอดขาย = 22 x 100 x 50 = 110,000 บาท
ค่าเช่า 20,000 / 110,000 = 18%
แปลว่าคุณค่อนข้างเสี่ยงมากนะ ถ้าจะเปิดร้านตรงนี้
เพราะว่าอะไร
- ประมาณการยอดขาย 100 แก้วต่อวันนั้น คิดมาจากความสามารถในการชงกาแฟของเรา ตามเวลาเปิดร้าน คือคุณชงได้มากแก้วกว่านี้ไม่ได้แล้ว ดังนั้น 100 แก้วคือ ยอดขายสูงสุดต่อวันของคุณ
- อย่าลืมเรื่องวันฝนตก ไฟดับ เด็กลาไม่มาทำงาน เรื่องเหล่านี้มีผลกับยอดขายทั้งสิ้น (มีแต่ทำให้ขายได้น้อยลง)
- คุณหาทางทำให้ขายได้ในราคาต่อแก้วมากขึ้น
- หาของอื่นมาขายเพิ่ม เช่นขนม เครื่องเขียน ของน่ารักๆจากสำเพ็ง เพื่อเป็นรายได้เสริมให้ร้าน ห้ามดูถูกของเหล่านี้นะครับ ของชิ้นเล็กๆที่คนซื้อๆได้แบบไม่ต้องคิดนี่ล่ะ ทำเงินล้านให้ใครต่อใครมาหลายคนแล้ว
- หาทำเลใหม่ เพราะตรงนี้มันไม่ตอบโจทย์จริงๆ ฝืนใจเปิดร้านไปนี่ โอกาสเจ๊งมีเห็นๆ ทำไปทำมาค่าเช่ากินหมด
โดยการ
- ไปปรับสูตรเครื่องดื่มให้ขายได้ในราคาต่อแก้วสูงขึ้น โดยใช้ของดีขึ้น แต่ทำให้ขายได้แพงขึ้นด้วยเช่นกัน เคยเห็นกาแฟรถเข็นที่มีกาแฟ 10-20 ยี่ห้อวางเรียงกันอยู่บนรถไม๊ เวลาขาย คนกินจะเลือกได้ว่าเอากาแฟยี่ห้อไหน ราคาขายก็จะเปลี่ยนไปตามกาแฟที่เลือก เช่น + 5 -10 บาท แต่ใช้เวลาทำงานเท่าเดิม
- ทำร้านให้น่านั่ง จะได้บวกค่าบรรยากาศเข้าไปในเครื่องดื่มด้วย
- ยกระดับการบริการ เช่นมี Wifi มีหนังสือพิมพ์ หรือ Free Magazine ให้อ่าน บริการเหล่านี้ มี Value ในตัวเอง ทำให้แล้วเราคิดเงินลูกค้าได้
แหล่งที่มา Facebook : Trick of the Trade
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น