แต่เหมือนป้าย "สียังไม่แห้ง" ใครเห็นก็อยากลอง
ไดอารี่ฝุ่นจับเล่มนั้นวางอยู่
และอดที่จะเปิดอ่านไม่ได้จริง ๆ
ลายมืออ่านยากบนกระดาษ ทำให้ต้องค่อย ๆ อ่าน
เจ้าของสมุดบันทึกเล่มนี้เขียนไว้ตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้ว
บางวันก็บันทึกยาว บางวันก็สั้น บางวันก็ไม่ได้บันทึก
ใจความแต่ละวันคล้าย ๆ กัน
บางวันก็ดีใจ บางวันก็เสียใจ
แต่หนักไปทางอย่างหลังเสียมากกว่า
เขาบ่นเรื่องงานที่แย่ลงทุกวัน เพื่อนร่วมงานทะเลาะกัน
เขาบ่นเรื่องรายได้ไม่พอใช้ เงินเก็บกำลังจะหมด
เขาบ่นเรื่องธุรกิจที่ลงทุน แล้วเจ๊งในเวลาไม่นาน
เขาบ่นเรื่องความเหงา ไร้ค่า อยากมีใครสักคน
บางวันเขาเกรี้ยวกราด ก่นด่าโลกใบนี้
บางวันเขาหดหู่ ไม่อยากคุยกับใคร
...บางวันเขาไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้แล้ว
พลิกอ่านไปทีละหน้า รู้สึกดำดิ่งไปในความเศร้า
ชีวิตของผู้ชายคนนี้ช่างน่าสงสารเกินไป
จนไม่อาจอ่านมันจบ พอเหอะ!
ปิดไดอารี่เล่มนั้น ฝุ่นฟุ้งกระจายในอากาศ
… คิดว่า กำลังอ่านสมุดบันทึกของ "คนอื่น"
ทั้งที่มันเป็นไดอารี่เมื่อ 10 กว่าปีก่อน
จำไม่ได้เลยว่าชีวิตช่วงนึงเคยแย่ขนาดนั้น
อ่านไปก็สงสารตัวเองไป
ถ้าวันนั้นใจเร็วด่วนได้ ตัดสินใจอะไรสั้น ๆ ไป
คงไม่ได้มาอ่านไดอารี่เล่มนี้
ปัญหาชีวิตมันเป็นเรื่องแปลก
ตอนที่เราจมอยู่กับมัน ดูจะเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก
แต่พอผ่านมันมาแล้ว มันก็บรรจุไว้แค่ตัวหนังสือในสมุดบันทึก
โอเค อาจมีแผลเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้เราเติบโต
"แล้วมันจะเป็นอีกเรื่องที่ผ่านไป"
เป็นประโยคที่มักจะตอบคนที่ถามเสมอว่า
ขีวิตกำลังผิดหวัง ย่ำแย่ ตายแน่ ทำอย่างไรดี
ถ้ายังไม่หยุดจรดปากกาลงบนสมุดบันทึกชีวิต
ใครจะรู้เล่มแรก ๆ มันอาจจะเขียนแล้วเศร้า
แต่เล่มหลัง ๆ มันอาจจะสุขจนล้นก็ได้
"ชีวิตคือหนังเรื่องยาว ดูกันยาว ๆ"
คืออีกหนึ่งประโยคที่กล่าวเสมอเมื่อมีโอกาส
ถอยออกมามองชีวิตไกล ๆ
จะได้ไม่จมอยู่กับปัญหามากนัก
ถึงเวลาเศร้า ก็เศร้าไปเถอะ
ถึงเวลาต้องร้องไห้ ก็ร้องไห้ไปเถอะ
แต่อย่าให้มันนานเกินไป
เพราะเราไม่ได้เกิดมาเพื่อพ่ายแพ้
อีกอย่าง เดี๋ยวสมุดบันทึกก็เปียกหมดพอดี
สมุดบันทึกเล่มเก่า จะเขียนเศร้าแค่ไหนก็ช่างมัน
สำคัญที่ตรงเราจะเขียนอะไรลงไปในบรรทัดใหม่ ๆ ต่างหาก
เรื่องมันก็มีเท่านี้เอง
ขอตัวไปเขียนสมุดบันทึกเล่มใหม่ก่อนนะ
แล้วคุณล่ะ จะเขียนอะไรดี?
แหล่งที่มา Facebook : Boy's Thought
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น