มีคำเตือนมาจากกระทรวงสาธารณสุข ให้พวกเราระวัง
ประกอบด้วยโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน บิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ และตับอักเสบ โดยมีสาเหตุมาจากการกินอาหาร ดื่มน้ำที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน หรือกินอาหารสุกๆ ดิบๆ
ได้แก่ โรคหวัด ไข้หวัดใหย่ คออักเสบ หลอดลมอักเสบ และปอดบวม โรคที่น่ากลัวในกลุ่มนี้คือ โรคปอดบวม จะมีอาการไข้ขึ้น ไอ หายใจเร็ว หอบเหนื่อยเกิดได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
3. กลุ่มโรคติดเชื้อผ่านบาดแผลหรือเยือบุผิวหนัง
ประกอบไปด้วยโรคเล็ปโตลไบโรซิล (โรคฉี่หนู) ต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง เมื่อร่างกายมีบาดแผลตามนิ้วมือ นิ้วเท้า เว้นจากการลุยน้ำ หรือสัมผัสน้ำสกปรก อาการของโรคจะมีไข้สูงเฉียบพลัน ตาแดง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อบริเวณน่องและโคนขาอย่างรุนแรง
4. กลุุ่มโรคติดต่อที่มียุงเป็นพาหะ
ได้แก่ โรคไข้เลือดออก (ยุงลาย) ไข้สมองอักเสบ (ยุงรำคาญที่มักแพร่พันธุ์ตามแหล่งน้ำ) และ มาลาเรีย (ยุงก้นปล่อง) สังเกตได้ง่ายจะมีไข้สูง ปวดศีรษะมาก คลื่นไส้อาเจียน
5. กลุ่มโรคเยือบุตาอักเสบหรือตาแดง
เกิดในกรณีที่เชื้อไวรัสในน้ำสกปรก เผลอกระเด็นเข้าตา
ดูแลตัวเอง
นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผอ.องค์การเภสัชกรรม แนะนำวิธีป้องกันดูแลตนเองง่ายๆ เริ่มจากการปรับสุขลักษณะการกินเปลี่ยนมาใช้วิธี "กินร้อน-ช้อนกลาง-ล้างมือ" เลือกทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย ดื่มน้ำอุ่นๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ใช้ข้าวของเครื่องใช้ร่วมกันภายในครอบครัว เฝ้าระวังกลุ่มเด็กและคนชราเป็นพิเศษ เพราะกลุ่มเหล่านี้มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย
นอกจากนั้น ต้องหมั่นดูแลร่างกายให้อบอุ่น ถ้ามีเหตุให้เปียกฝนต้องรีบเช็ดตัวและผมให้แห้ง ถ้ารู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวให้ดื่มน้ำมากๆ สำคัญที่สุด เราต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงอยู่เสมอ เมื่อไรที่เราไม่มีภูมิต้านท้าน เมื่อนั้นเราย่อมเป็นเป้านิ่งให้โรครุมเร้าโดยสมยอมทันที
แหล่งที่มา นสพ. M2F วันพฤหัสบดีที่ 21 มิ.ย. 55 (169)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น