สนับสนุนให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัย เมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา มีความเข้มแข็งพร้อมฟื้นฟูพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ล่าสุด มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ดำเนินงานจัดกิจกรรม “ผลพลอยของพอเพียง” ซึ่งเป็นกิจกรรมสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างยั่งยืน ในโครงการชุมชนเข้มแข็ง ผลิตอาหารรับประทานใน 45 วันของมูลนิธิฯ โดยนำผลผลิตพลอยได้จากการสร้างความมั่นคงทางอาหารในชุมชนที่เคยประสบอุทกภัย ตามหลักปรัชญาแนวทางพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง และผลผลิตพลอยได้ที่เกิดจากการพัฒนาทางการเกษตรแบบวิถีธรรมชาติ และเกษตรอินทรีย์มาจัดแสดง โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จทรงเป็นประธานเปิดงาน เมื่อวันก่อน ณ บริเวณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม ชอปปิง คอมเพล็กซ์ 
ในการนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการการผลิต “ถ่านอนามัย” ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของ ม.เกษตรศาสตร์และ ม.สงขลานครินทร์ ทำการวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตถ่านไม้ต่อยอดจากไม้ปลูกอย่าง “ไม้ยูคาลิปตัส” โดยต่อยอดนำ “เศษไม้ยืนต้นตาย” ผลพลอยได้จากวิกฤติอุทกภัยมาผลิตเพิ่ม ภายใต้ชื่อ ถ่านอนามัย “พีพีพี ชาโก” มีคุณสมบัติ ปราศจากสารก่อมะเร็งให้ความร้อนสูง ติดไฟนาน ไม่มีควัน มีขี้เถ้าน้อย สามารถดูดกลิ่นขับสารพิษในอากาศได้ดี เหมาะสำหรับประกอบอาหารปิ้ง ย่าง หรือหุงต้ม โดยทรงซักถามด้วยความสนพระทัยและทรงทดสอบความสามารถในการนำไฟฟ้าของถ่านอนามัย ตลอดจนทอดพระเนตร “น้ำส้มควันไม้” ใช้ในการบำรุงพืช ลดศัตรูพืช และกลั่นเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง ซึ่งล้วนเกิดมาจากกระบวนการผลิตถ่านอนามัย ทั้งนี้ทางมูลนิธิฯ จะวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ในศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียมฯ รายได้จากการจำหน่ายจะสมทบทุนมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากฯ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยต่อไป ด้าน นายมรกต พิธรัตน์ ประธานคณะกรรมการโครงการชุมชนเข้มแข็งฯ กล่าวว่า การเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนและเกษตรกรได้รับผลกระทบ ทั้งทรัพย์สิน ที่อยู่อาศัย ไร่นาที่ทำกินเกิดความเสียหาย ดังนั้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแบบยั่งยืน พัฒนาชุมชนที่ประสบอุทกภัยให้มีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงมีความมั่นคงทางอาหาร ทั้งในระดับครัวเรือนและชุมชน มีเป้าหมายดำเนินการนำร่องในปีนี้ จำนวน 10 ตำบล 10 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี, อุตรดิตถ์, สิงห์บุรี, นครปฐม, พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี, นนทบุรี, สระบุรี, นครสวรรค์ และอ่างทอง ที่ได้เรียนรู้หลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง เช่น การปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ไว้เป็นอาหารในครัวเรือน และการสร้างพลังงานใช้เอง
แหล่งที่มา เว็บไซต์เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน 2555 เวลา 00:06 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น