วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

รัก...ที่ไม่มีเงื่อนไข

รัก...ที่ไม่มีเงื่อนไข
"We long for an affection altogether ignorant of our faults.   
Heaven has accorded this to us in the uncritical canine attachment.
-  George Eliot

"ลูกกกก...ระวัางงงงงงง นั่นไง.... จะชนชาวบ้านเค้าแล้วเห็นมั้ย โอ๊ยยย...นั่งรถแกแล้วพ่อหวาดเสียวจริงๆ"

"โธ่พ่อจ๋า...หนูเห็นแล้วน่ะพ่อ หนูไม่ชนหรอก พ่อร้องดังจะตาย หนูจะชนเขาก็เพราะเสียงตกใจของพ่อนี่แหละ"

พ่อคนนี้ เดิมมีอาชีพเป็นช่างตัดซุง เขาชนะการแข่งขันตัดซุงจนมีเหรียญรางวัลเต็มหิ้ง มาระยะหลัง ชายแก่ยกอะไรไม่ค่อยไหว เพราะตอนอายุ 67 เขาเกิดอาการหัวใจกำเริบจนต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล หลังจากนั้น ก็หมดอาลัยตายอยากในชีวิต  ไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น ใครจะพูด จะแนะนำ อย่างไรก็ไม่ฟัง  จนเพื่อนๆ และคนรอบข้างพากันเอื้อมระอา  เพราะเขาจะเอามาแต่พูดประชดประชัน ดูถูกดูแคลนคนโน้นคนนี้ไปทั่ว

สุดท้าย ลูกสาวกับสามี จึงตกลงใจรับพ่อมาอยู่ที่ไร่ด้วยกัน  เผื่อธรรมชาติจะช่วยทำให้หัวใจของพ่อชุ่มชื้นขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่า พ่อเข้าโหมดบ่นไม่หยุด หงุดหงิดง่าย ว่ากล่าวเป็นประจำ จนลูกสาวและลูกเขยหมดกำลังใจที่จะดูแลพ่อต่อไป  ทั้งคู่จึงตัดสินใจโทรไปหาหน่วยงานด้านสุขภาพจิต แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรพ่อได้ จนวันหนึ่ง ลูกสาวได้อ่านเจอบทความเกี่ยวกับการให้คนสูงวัยที่เป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรังเลี้ยงสุนัข ซึ่งมีผลวิจัยพบว่า จะทำให้ทัศนคติต่อชีวิตของผู้สูงวัยพัฒนาขึ้น

ลูกสาวจึงได้ไปสถานพักพิงสุนัขที่พลัดหลง เพื่อเลือกสุนัขมาเลี้ยงสักตัว ทันใดนั้น เธอก็เห็นสุนัขพันธุ์บ้านๆ  (ประมาณสุนัขที่อยู่ตามวัดบ้านเรา) ผอมโซมีแต่หนังหุ้มกระดูกนั่งอยู่  เจ้าหน้าที่เล่าว่า สุนัขตัวนี้ไม่ยอมไปไหน วันๆ เอาแต่นั่งรอเจ้าของมารับ แต่สถานที่พักพิงจะต้องจำหน่ายสุนัขตัวนี้ออกไปในวันพรุ่งนี้ เพราะสามารถเก็บสุนัขได้แค่ 2 อาทิตย์เท่านั้น

"หมายความว่า สุนัขตัวนี้จะต้องถูกฆ่า"

"ใช่ครับ  เราจะฉีดยาให้เขาหลับไปตลอดชีวิตครับ"

ลูกสาวจึงตัดสินใจรับสุนัขตัวนี้กลับไปให้พ่อเลี้ยง แต่พอพ่อเห็นเจ้าตูบเข้า กลับสบถออกมา จนลูกสาวทนไม่ไหว

"เอาสุนัขจรจัดผอมเหมือนผีตายซากตัวนี้มาให้พ่อได้ไง สารรูปเห็นแล้วจะอ๊วก เอาป๊ายยยยยยยยย.... ฉันไม่เอา เอากลับไป"

ลูกสาวเสียใจและทนความเจ้าอารมณ์ของพ่อไม่ไหว จึงกรรโชติเสียงออกไปว่า "เรื่องของพ่อ หนูไม่ยุ่งด้วยแล้ว ไม่เคยมองความปรารถนาดีของลูกเลย" แล้วลูกสาวก็เดินหนีไป

ส่วนเจ้าตูบที่น่ารังเกียจ กลับหมอบลงแทบเท้าชายแก่ พร้อมเลียฝ่าเท้าให้ตลอด ชายแก่เริ่มสงสารและรักใคร่เอ็นดู คอยหาข้าวหาน้ำมาป้อนให้  จนในที่สุดเขาอาบน้ำ แล้วนำมันมานอนหน้าเตียงทุกคืน

ทุกวันชายแก่คิดเพียงว่า สุนัขต้องออกกำลังกาย ต้องออกไปนอกบ้าน  เพื่อจะได้เดิน กล้ามเนื้อจะได้แข็งแรง เขามีความสุขอยู่กับ "การให้" และ "การรับ"  ความรู้สึกผูกพันและห่วงใยอย่างไม่มีเงื่อนไขของสุนัข แม้ในช่วงแรก สุนัขจะถูกชายแก่บ่นด่า แต่สุนัขก็วิ่งเข้ามาเลียมือของเขาเสมอ

บ้านเริ่มเป็นบ้านขึ้นมาแล้ว ชายแก่มีความสุขและมีรอยยิ้มกลับคืนมา จนตีสองของคืนหนึ่ง เจ้าตูบได้วิ่งไปที่ห้องลูกสาว ใช้เท้าเขี่ยประตู

"เกิดอะไรขึ้น" เจ้าสุนัขเดินนำลูกสาวไปที่ห้องนอนของผู้เป็นพ่อ ศพชายแก่นอนแน่นิ่งพร้อมรอยยิ้มที่ใบหน้า สะท้อนถึงความสงบสุขก่อนที่จะจากโลกนี้ไป  ใช่...เขาจากลูกๆ และเจ้าสุนัขผู้ซื่อสัตย์ไปแล้ว อย่างไม่มีวันกลับคืนมา

เจ้าสุนัขไม่ยอมกินข้าวและนอนหมอบอยู่หน้าเตียง ตั้งแต่วันที่ชายแก่จากไป

ในงานศพ ลูกสาวและลูกเขยต่างตกใจที่คนในหมู่บ้านต่างพากันมาร่วมงานศพมากมาย ถูกต้องค่ะ...ตอนที่ชายแก่จูงสุนัขออกไปเดินเล่น เขาได้พบปะผู้คน ความกดดันต่างๆ จึงลดลง เมื่อได้เห็น ได้พูดคุย และได้หัวเราะกับคนวัยเดียวกันที่เข้าอกเข้าใจความรู้สึกของกันและกัน โดยความสุขเหล่านี้เริ่มต้นจากสุนัขตัวนี้นี่เอง

"ฉันขอบใจเธอมาก นางฟ้าของฉัน เธอทำให้ชีวิตของพ่อฉันสงบเย็นและมีแต่รอยยิ้ม ฉันขอบใจเธอมากนะเจ้าตูบ"

หลังจากงานศพคืนที่สอง สุนัขผู้ซื่อสัตย์ตัวนี้ก็ตรอมใจตาย เพราะไม่สามารถทนความคิดถึง ความผูกพัน และความจงรักภักดีที่มีต่อชายแก่ได้ เมื่อลูกสาวเปิดห้องนอนของผู้เป็นพ่อเพื่อนำอาหารมาให้สุนัข สุนัขตัวนี้ก็ยังทำหน้าที่ของมันจวบจนวินาทีสุดท้าย


"We long for an affection altogether ignorant of our faults.   Heaven has accorded this to us in the uncritical canine attachment." -  George Eliot

จอร์จ อีเลียต กล่าวไว้ว่า คนเราต้องการความรัก และไม่อยากให้ใครมองเห็นข้อผิดพลาดที่บางครั้งเราเผลอทำขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ  โชคดีที่สวรรค์เห็นด้วยกับความจริงข้อนี้  สวรรค์จึงได้ส่งความรักของสุนัขที่ปริ่มด้วยความผูกพันและสัตย์ซื่อมาให้มนุษย์  อันเป็นความรักที่ไม่มีการต่อล้อต่อเถียง และเป็นความรักสุดหัวใจที่มอบให้โดยไม่หวังผลตอบแทน

บางทีสุนัขก็ให้แง่คิดมากล้นสำหรับเรา ขอบคุณสุนัขตัวนี้ที่กระตุกสติให้เราได้คิดถึงความสุขที่ปราศจากเงื่อนไขที่มอบให้กันและกัน ขอบคุณจริงๆ

แหล่งที่มา   นิตยสารเพื่อสุขภาพเต็มร้อย ฉบับ July, 2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...