วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2554

วันวัณโรคโลก 24 มีนาคม

จัดกิจกรรมวันวัณโรคโลก 24 มีนาคม 2554 เวลา 7.00 - 12.00 น. ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติชั้น 1 รพ.พระมงกุฎเกล้า กิจกรรมในงานมีดังนี้
  1. วัดความดัน
  2. ชั่งน้ำหนัก
  3. ตรวจไขมันสะสมใต้ผิวหนัง
  4. ให้คำปรึกษาสุขภาพเกี่ยวกับวัณโรค
  5. นิทรรศการความรู้
  6. เสวนาโดยแพทย์ รพ. พระมงกุฎเกล้า เวลา 10.00 - 11.00 น.


วัณโรค โรคร้ายที่ไม่น่ากลัว


  1. วัณโรคติดต่อได้อย่างไร
  2. อาการสำคัญของวัณโรคปอด
  3. วัณโรคกับเอดส์ คู่หูตัวร้าย
  4. เมื่อไรควรไปตรวจหาเชื้อวัณโรค
  5. การวินิจฉัยวัณโรค
  6. วัณโรครักษาหายได้
วัณโรคติดต่อได้อย่างไร
วัณโรคเป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
 

ติดต่อโดยผู้ป่วยไอ-จาม ไม่ปิดปากปิดจมูก ผู้อยู่ใกล้หายใจที่มีเชื้อเข้าสู่ร่างกาย


วัณโรคเป็นได้กับทุกส่วนของร่างกายของร่างกายแต่ที่พบมาก คือ วัณโรคปอด

อาการสำคัญของวัณโรคปอด
  • ไอติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์
  • ไอมีเสมหะปนเลือด
  • อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ไอแห้งๆ หรือมีเสมหะ น้ำหนักลด เจ็กหน้าอก ไข้ต่ำๆ
วัณโรคกับเอดส์ คู่หูตัวร้าย
  • การติดเชื้อเอชไอวี (เอดส์) ทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง โอกาสป่วยเป็นวัณโรครวดเร็วและรุนแรงมากกว่าผู้ที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวี
  • ผู้ป่วยวัณโรคหากทราบสถานภาพการติดเชื้อเอชไอวี สามารถรักษาโรคร่วมกัน เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
เมื่อไรควรไปตรวจหาเชื้อวัณโรค
  • ผู้ที่มีอาการสงสัยวัณโรค
    -  ไอติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์
    - ไอมีเสมหะปนเลือด
  • ผู้อาศัยร่วมบ้าน หรือใกล้ชิดกับผู้ป่วยวัณโรคปอดที่เสมหะตรวจพบเชื้อ โดยเฉพาะเด็กเล็ก
  • ผู้ติดสารเสพติดชนิดฉีด
  • ผู้มีประวัติต้องขังในเรือนจำ
  • ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคไต
  • ผู้ติดเชื้อเอชไอวี / ผู้ป่วยเอดส์

การวินิจฉัยวัณโรค
แนะนำไปสถานที่บริการสาธารณสุขหรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน

  • เอกซเรย์ปอด
  • ตรวจเสมหะหาเชื้อวัณโรค
วัณโรครักษาหายได้
  • มียารักษาวัณโรคที่มีประสิทธิภาพสูงในการรักษา
  • ใช้เวลาในการรักษา 6-8 เดือน
  • กินยาครบทุกเม็ด ครบทุกมื้อ ไม่ดื้อยา
  • ไม่หยุดยาเอง
  • หากมีอาการแพ้ยาควรรีบปรึกษาแพทย์
  • มีพี่เลี้ยงดูแลการกินยาจนครบการรักษา



เมนูแนะนำ "เต้าฮวยน้ำขิงแก่" สำหรบดูแลสุขภาพ
ส่วนประกอบ
  1. เต้าหู้ขาว 1 หลอด (220 กรัม)
  2. ถั่วแดงหลวงต้มสุก 80 กรัม
  3. ถั่วทองนึ่งสุก 80 กรัม
  4. ขิงแก่ 1,000 กรัม
  5. น้ำตาลแดง 40 กรัม
  6. น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
** รับประทานได้ 8 ถ้วนเล็ก/น้ำหนักโดยประมาณ 46.5 กรัม/ถ้วยเล็ก
วิธีการปรุงประกอบ
  1. ล้างขิงให้สะอาดทุบพอแตกห่อผ้าขาวบางใส่ในน้ำต้มเดือดใส่น้ำตาลทรายแดงตั้งไฟให้ร้อนอยู่เสมอ ประมาณ 20 นาที จะได้กลิ่นหอมและความเผ็ดจากขิง
  2. นำเต้าหู้ขาวมานึ่งโดยตั้งลังถึงใส่ขิงแก่ทุบพอแตกในน้ำที่ใส่ลังถึง เพื่อให้เต้าหู้มีกลิ่นหอมจากขิง
  3. ตักเต้าหู้ใส่ถ้วยตักน้ำขิงใส่โรยหน้าด้วยถั่วทองนึ่งสุกและถั่วแดงหลวงต้มสุกรับประทานร้อนๆ
หมายเหตุ
สามารถใส่ธัญพืชอื่นแทนลงไปได้ เช่น ข้าวโพด ลูกเดือย เป็นต้น เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ

แหล่งข้อมูลจาก :  เอกสารแจก เรื่อง "วัณโรค โรคร้ายที่ไม่น่ากลัว"| สำนักวัณโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข  | สนับสนุนโดย sanofi aventis

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...