วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

หุ้นร่วงแรงมาก.... 11 มิ.ย. 56

นับแต่ลงทุนมา ก็จวบ 6 เดือน เริ่มปลายต.ค. 2555 ช่วงนั้นหู้นยังสภาพปกติ พอมากลาง พ.ย. 2555 หุ้นก็ลงๆๆ ไม่เข้าใจ แต่ตอนนั้นยังมีหุ้นน้อยตัวอยู่ และเชื่อว่า marketing บอกว่าหุ้นตัวนี้ดี ในปีหน้า (2556) ก็เลยถือทุกตัว ขาดทุนบ้าง กำไรบ้าง ตัวที่ขาดทุนหนักๆ ก็มี แต่ก็คิดว่ารอ...... จนหุ้นตัวนั้นก็ขึ้นจริงแต่วันหนึ่งก็ร่วงต่ำมาถึงจุดที่เราซื้ออีกครั้ง ทั้งๆ ที่ขึ้นไปถึง 50% แล้ว ตั้งใจว่าถือยาว ก็เลยต้องเปลี่ยนใจขายไปเสีย

เดือน เม.ย. พ.ค. 2556 ก็ร่วงอีก

แต่วันนี้ หุ้นร่วงแรงกว่าวันนั้นอีก (มิ.ย. 2556) หุ้นตัวที่เราขายไปแล้ว เมื่อหวนไปมองหุ้นตัวนั้นก็มีราคาขึ้นเป็น 2 เท่าราคาเดิมที่เราเคยซื้อ เสียดายไหม??? คำตอบ ไม่เสียดาย เพราะได้ตัดสินใจขายไปแล้ว ไม่ควรหวนคิดถึง อย่างไรก็มีกำไรแม้จะน้อยนิดกว่าที่ควรจะเป็นก็ตาม มีหุ้นหลายตัวที่เป็นแบบนี้

วันนี้หุ้นในพอร์ตติดลบเสียแล้ว แต่ก็ไม่มากนัก แต่มีหุ้นหลายตัวติดลบหนักมากกกก แต่ก่อนซื้อเราก็ได้ดูผลประกอบการว่าน่าจะดี แต่จะดีทุกไตรมาสในอนาคตหรือไม่ เราก็คงตอบไม่ได้ คิดว่า ณ เวลานั้น เมื่อมองแล้วว่าน่าจะดี ก็โอเคแล้ว เพราะจะให้คาดเดาอนาคตไกลมากนักคงเป็นไปได้ยาก เพราะเราไม่ใช่คนวงใน จึงมีหุ้นหลายตัวที่มองพลาดไป เมื่อประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมา กลับแย่ ทำให้หุ้นนั้นลง แต่หุ้นบางตัวขาดทุนกลับไม่ลง ผลประกอบการแย่กลับลงมากกว่าก็มี หรือหุ้นบางตัวผลประกอบการดีมากแต่กลับลง ไม่เข้าใจหนอ.....

วันนี้พบข้อคิดดีอีก น่าจะช่วยให้เพื่อนๆ ที่ร่วมชะตาคล้ายๆ กันนำไปใช้ได้ก็น่าจะดี เลยนำมาฝากอีก
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
17 คำคมเพื่อการลงทุน

1. "การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดคือ การลงทุนในความรู้" (Benjamin Franklin)

2. "จุดต่ำสุดในโลกของการลงทุน ไม่หยุดอยู่แค่ จุดต่ำสุดในรอบ 4 หรือ 5 ปี มันอาจจะจบที่ จุดต่ำสุดในรอบ 10 หรือ 15 ปี ฉะนั้นจงเตรียมใจที่จะเห็น หุ้นราคาตกลงไปอีก ก่อนที่มันจะสร้างผลตอบแทนให้ในภายหลัง" (Jim Rogers)

3. "ผมจะบอกให้ว่าคุณจะรวยได้อย่างไร จงกลัวในเวลาที่ทุกคนกำลังโลภ และจงโลภในเวลาที่ทุกคนกำลังกลัว" (Warren Buffett)

4. "ตลาดหุ้นมีแต่คนที่รู้ราคาของทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ไม่เคยรู้มูลค่าของมันเลย" (Phillip Fisher)

5. "ในการลงทุน การทำอะไรอย่างสะดวกสบาย ไม่ค่อยสร้างผลตอบแทนที่ดีได้" (Robert Arnott)

6. "คุณรู้จักเศรษฐีสักกี่คนที่รวยขึ้นมาจากดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์" (Robert G. Allen)

7. "ลงทุนในตัวคุณ อาชีพของคุณเป็นที่มาความมั่งคั่งของคุณ" (Paul Clitheroe)

8. "มีบางครั้ง ตลาดจะทำเรื่องงี่เง่าสุดๆ ถึงขนาดที่คุณแทบจะหยุดหายใจ ฉะนั้นจงเตรียมพร้อมรับตลาดขาขึ้นและลง" (Jim Cramer)

9. "นักลงทุนรายย่อยควรทำตัวเป็นนักลงทุน ไม่ใช่นักเก็งกำไร" (Ben Graham)

10. "มันไม่ใช่ว่าคุณทำเงินได้เท่าไหร่ แต่คุณเก็บเงินไว้เท่าไหร่ เงินมันทำงานให้คุณหนักแค่ไหน และคุณเก็บมันไว้เพื่อให้ผลตอบแทนไปอีกเท่าไร" (Robert Kiyosaki)

11. "จงรู้ว่าคุณถืออะไรอยู่บ้าง และจงคิดว่าคุณถือมันไปทำไม" (Peter Lynch)

12. "อิสระภาพทางการเงินไม่ใช่การครอบครองสิ่งของใดๆ มันคือการปรับวิถีชีวิตให้ใช้น้อยกว่าที่คุณหาได้ ดังนั้นคุณจึงสามารถสละเงินนั้นและมีเงินเพื่อลงทุนต่อ คุณจะไม่ประสบความสำเร็จจนกว่าคุณจะทำเช่นนี้ได้" (Dave Ramsey)

13. "การลงทุนควรเป็นเหมือนกับการเฝ้ารอสีแห้งหรือเฝ้าดูต้นหญ้างอกงาม แต่ถ้าคุณอยากได้ความตื่นเต้นก็แค่พกเงิน 800 เหรียญไปที่ลาสเวกัส" (Paul Samuelson)

14. "ผมจะไม่จ่ายก่อน ผมจะลงทุนและปล่อยให้การลงทุนจ่ายแทน" (Dave Ramsey)

15. "คำ 4 คำที่อันตรายที่สุด ในการลงทุนคือ มันเปลี่ยนไปแล้ว" (Sir John Templeton)

16. "การกระจายความเสี่ยงที่เยอะๆ จะจำเป็นก็ต่อเมื่อนักลงทุนไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่"(Warren Buffett)

17. "คุณจะต้องเจอเศรษฐกิจถดถอย คุณจะเจอตลาดหุ้นตกต่ำ ถ้าคุณไม่เข้าใจว่าเรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้น แสดงว่าคุณยังไม่พร้อม คุณจะทำได้ไม่ดีในตลาดหุ้น" (Peter Lynch)

แหล่งที่มา   Facebook : Wizard Kid
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตลาดหุ้นเหมือนชีวิตคนเรา เราไม่มีทางเจอแต่ด้านดีแต่เพียงด้านเดียว และไม่ทางเจอแต่ด้านที่แย่แต่เพียงอย่างเดียว

แน่นอนไม่ว่าใครย่อมต้องรู้สึกเสียใจหรือเสียดายเมื่อหุ้นในมือราคาลดลง แต่การลงทุนแล้วมัวคิดแต่เรื่องเงินว่าได้มาเท่าไร? เสียไปเท่าไร? แล้วดีใจหรือเสียใจไปกับมันจนเกินเหตุ ไม่สามารถทำให้เราอยู่รอดในตลาดหุ้นได้

การมองเข้าไปที่ต้นเหตุของการประสบความสำเร็จสำคัญกว่า ถ้าเรามีหลักการลงทุนที่ถูกต้องและเหมาะสมกับเรา มีการควบคุมความเสี่ยงที่ดี เราย่อมอยู่รอดได้และได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจในระยะยาว

ฟังดูน่าจะทำตามได้ไม่ยากนัก แต่หลายครั้งเราละเลยที่จะไม่ทำตามวินัยของแนวทางการลงทุน โดยอาจจะได้กำไรต่อเนื่องในช่วงขาขึ้นทำให้ไม่ระวังความเสี่ยง ประเมินความเสี่ยงน้อยลง คิดแต่เพียงว่าจะได้กำไรเท่าไร? พอตลาดหุ้นเป็นขาลงเรากลับทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่เคยมีเรื่องราวแบบนี้ในแผนการมาก่อนเลย

คนที่วางแผนการลงทุนและมีวินัยน่าจะรับมือกับตลาดหุ้นขาลงได้โดยไม่ยากเกินไป ไม่สำคัญว่าแนวทางพวกเขาจะบอกให้ ซื้อ-ถือ-ขาย ในช่วงตลาดขาลง เพราะแต่ละแนวทางมีแนวคิดและการควบคุมความเสี่ยงที่ไม่เหมือนกัน เราต้องเข้าใจตนเองและเข้าใจแนวทางการลงทุนของตนเองเพื่อที่จะตัดสินใจในช่วงเวลาตลาดขาลงได้อย่างถูกต้อง

เมื่อเราอยู่รอดจนกลับมาอยู่ในช่วงตลาดขาขึ้นได้เราจะเติบโตได้มากกว่าเดิม...โดยเฉพาะเรื่องความคิด ประสบการณ์ ความสามารถ ส่วนเรื่องเงินหรือมูลค่าพอร์ตจะเป็นเพียงปัจจัยที่ตามมาจากการเติบโตภายในตัวเรา

ดังนั้นเจ็บแค่ไหนไม่ต้องร้อง...ขอให้ตั้งสติ กลับไปที่แนวทางการลงทุนและวินัยในการลงทุน แล้วเราจะพบกับคำตอบว่าเราควรทำอะไรดีในช่วงเวลาหุ้นตก

ตลาดหุ้นมีขึ้นมีลง แต่กระบวนการเรียนรู้ที่ถูกต้องมีแต่จะทำให้เราพัฒนาขึ้น :D

แหล่งที่มา   Facebook : Thailand Investment Forum
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความเหมือนที่แตกต่าง

Shopping เสื้อผ้าในห้าง พอเห็นป้าย Sale ---> เม่าก็ดีใจ
Shopping เลือกหุ้นในตลาด พอเห็นแต่คำว่า Sell ---> เม่าเป็นลม

หุ้นไทยวันนี้ ปิดตลาดไปที่ 1,452.63 จุด ลดลง 75.92 จุด (-4.97%) มูลค่าการซื้อขาย 64,943 ล้านบาท โดยทำจุดต่ำสุดลึกถึง 1,447.65 ในช่วงภาคบ่าย

ต่างชาติขายหนักถึง -5,481.55 ล้านบาท ผสมโรงด้วยพอร์ตโบรกเกอร์ขายสุทธิ -3,699.29 ล้านบาท ทำให้ล่าสุด ยอดขายสุทธิต่างชาติทั้งปี มาอยู่ที่ 49,266 ล้านบาท

ประเด็นหลักๆ ที่ตลาดหุ้นช่วงนี้ยังผันผวน ก็คือ
  1. S&P ปรับ Outlook ของอเมริกาดูดีขึ้น เม็ดเงินไหลกลับสหรัฐฯชั่วคราว Dollar แข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินในเอเชีย ล่าสุด เงินบาทอ่อนมาอยู่ที่ 30.90 บาท/USD
  2. ประเด็นเรื่องการถอน หรือไม่ถอน QE ยังไม่มีความชัดเจน นักลงทุนต่างชาติเลือกลดความเสี่ยงและขายทำกำไรก่อน
  3. โบรคฯ ต่างชาติ 2-3 แห่งพร้อมใจกันปรับลดคำแนะนำจากเดิม Neutral หรือ Overweight เป็น Underweight ตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP
  4. ความเสียหายจากโครงการจำนำข้าว น่าจะยิ่งชัดเจนและมีผลต่อ Outlook ประเทศไทยในช่วงระยะกลางถึงระยะยาว
... เวลาหุ้นลง นสพ. นักวิเคราะห์ ก็หาข่าวร้ายมาให้เยอะๆ เข้ากับบรรยากาศ และทำให้อารมณ์นักลงทุนหดหู่ยิ่งขึ้น

สุดท้าย ประเด็นเหล่านี้ มันกระทบกลับไปที่กำไรสุทธิของบริษัทรึเปล่า เป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องวิเคราะห์กันต่อ เอาใจช่วย

ปล. Admin รับหุ้นรอบนี้ไม้แรกตรง 1,480 จุด เมื่อวันศุกร์ ก็คิดว่าจะปรับฐานจบ ผลปรากฏ ได้ดอยเล็กๆเป็นของตัวเอง ... ระยะสั้นๆ นี่อ่านตลาดยากจุงเบยยย >.<

แหล่งที่มา   Facebook : Sinthorn
-------------------------------------------------------------------------------------------------------

เชิญร่วมไว้อาลัย "น้องเม่าศรี" ป.ล. ขำๆ นะ ทำใจดีๆ ไว้ หุ้นตกโลกไม่ได้แตก


แหล่งที่มา   Facebook : Indy Investor Forum

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...