วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

คนเก่ง ไม่มีคำว่า "ฟลุค"


อยากรู้ ต้องศึกษา
อยากเป็น ต้องหัดลอง
อยากก้าวหน้า ต้องพยายายาม

คนเราไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด
และความเก่งของคน ก็ไม่ได้มีกันได้ง่ายๆ ด้วย
นึกย้อนกลับไป ตอนสมัยทำงานกับคุณพ่อใหม่ๆ
ที่บ้านทำโรงงานจิวเวลรี่มาตั้งแต่เกิด

วันนึงได้มีโอกาสมาทำงานในธุรกิจครอบครัวของตนเอง
เพราะสมัยนั้น เกเร  ไม่ยอมเรียนหนังสือ เอาแต่เที่ยวเตร่
ตอนทำงานแรกๆ นี่ ทางบ้านก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
ว่าจะเอาดีกะเค้าได้หรือเปล่า แต่ใครจะรู้จิตใจตอนนั้น

มีแต่คำว่าอยากพิสูจน์ตัวเอง ว่าเราก็สามารถทำได้
ตอนแรกมาเริ่มงานในออฟิศ กับธุรกิจที่อยู่ในสายงานการผลิต
และรู้สึกว่า การนั่งเป็นหนุ่มออฟฟิศนั้น ไม่ได้ช่วยให้เก่งขึ้น

ส่วนพ่อ  ก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
ก็มองว่าเป็นเด็กไม่ได้เรื่องอยู่ในสายตาเค้าอยู่เสมอ
จึงเอาตัวเอง ไปทำงานขลุกอยู่ในโรงงานแทน

ไปนั่งศึกษาขั้นตอนการผลิตต่างๆ
ไปเรียนรู้งานกับช่างจิวเวลรี่อยู่นานหลายเดือน
จนเริ่มที่จะรู้งานมากขึ้น และเริ่มคิดถึงขั้นต่อไป

ต่อมาจึงอาสา  ขอรับหน้าที่เป็นแมสเซนเจอร์
อาจจะฟังดูตลกนะ  สำหรับลูกเถ้าแก่แต่ขอมาทำงานในส่วนนี้
เพราะตอนนั้นมองว่า การได้ออกไปวิ่งรับส่งของเองนั้น
จะทำให้สามารถเข้าถึงและติดต่อกับลูกค้าโดยตรง
เพราะถ้ายังนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ มันช้าไปสำหรับ
กว่าที่ลูกค้าจะสามารถรู้จักกับตัวตนได้เป็นอย่างดี

ยอมรับว่าเหนื่อยมากๆ  กับการขี่มอเตอร์ไซด์ทั้งวัน
เป็นอย่างนี้อยู่นานเป็นปี แต่ก็ไม่ผิดหวัง  กับสิ่งที่ได้รับกลับมา
เพราะเมื่อไปส่งของลูกค้า  ก็จะได้รับงานใหม่กลับมา
พร้อมทั้งคำสั่งในเนื้องานต่างๆ ผ่านตัวเป็นหลัก
และนี่คือการสร้างอำนาจหน้าที่ให้ตัวเองในทางอ้อม

ให้สามารถมีสิทธิ์ในการดูแลงานต่างๆ ของลูกค้า
เพราะลูกค้าก็เริ่มไว้วางใจ ที่จะคุยงานผ่านตัวโดยตรง
โดยที่ไม่ต้องโทรคุยโทรศัพท์ เพราะวิ่งไปหาเองทุกวัน
จนในที่สุด  ก็เขยิบฐานะของตนเองได้
ได้รับการไว้วางใจขึ้นมาควบคุมบริหารงานในโรงงานโดยตรง
โดยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งในส่วนของลูกค้าและช่างลูกน้องในโรงงาน
และยังเพิ่มทักษะ ให้มีประสบการณ์จากการคุยตรงกับลูกค้าบ่อยๆ นั้น
ทำให้มีศักยภาพ ในการออกไปหาลูกค้าเจ้าใหม่ๆ ด้วย

เส้นทาง  อาจจะเริ่มต้นไม่ได้โก้หรูเหมือนลูกเจ้าของทั่วไป
แต่รู้ดีว่า..ถ้าอยากเก่ง ก็ต้องดิ้นรนไขว่คว้า
หาวิธีการต่างๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ให้มีประสิทธิภาพที่สุด
ผลที่ได้รับกลับมานั้น เมื่อมองย้อนกลับไป
ไม่เคยที่จะรู้สึกว่าตอนนั้นตัวเองลำบากเลย
กลับรู้สึกสนุกขึ้นทุกวัน กับความสามารถของตนเองทีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จนวันนี้  ก็สามารถบินเองได้แล้ว
โดยการแยกออกมาทำธุรกิจที่เป็นของตนเอง

สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น มันไม่เคยมีอะไรง่ายหรอก
ความสามารถของคน มักจะถูกพิสูจน์ด้วยความยากของงานเสมอ
คนเก่งไม่มีคำว่า"ฟลุ้ค"
อยากเก่ง มีแค่คำว่า "อยาก" ก็ยังไม่พอ
เพราะหนทางสู่ความเก่ง จะเต็มไปด้วยบททดสอบใหม่ๆ เสมอ
ซึ่งบททดสอบต่างๆ นั้น เกิดขึ้นจริงได้
จากการหมั่นลงมือทำ และเริ่มที่จะกล้าไปเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ
เพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ

"ความเก่งไม่ได้อยู่ที่ปาก แต่เกิดจากการการยอมรับในผลงานที่ทำ"

แหล่งที่มา    Facebook : สมองไหล Bychix

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...