“ของฟรีไม่มีในโลก” การถูกหวยก็เช่นกัน…
เพราะในความโชคดีนั้น ก็ต้องมีการจ่ายภาษี
ตามกฎหมาย ไม่ว่าจะถูกลอตเตอรี่หรือได้รางวัลชิงโชค
ใช่ว่าจะได้มาฟรี โดยรางวัลแต่ละประเภท
จะถูกเก็บภาษีในรูปแบบและอัตราที่แตกต่างกัน
ส่วนจะโดนเก็บภาษียังไงบ้างนั้น ตามมาดูกัน
1. หวยสลากกินแบ่งรัฐบาล
หากถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล
ผู้ถูกรางวัลจะถูกโดนหักค่าอากรแสตมป์
หรือหักภาษี ณ ที่จ่ายทันที เมื่อไปขึ้นเงิน
ด้วยอัตรา 0.5% ของเงินรางวัล
ตัวอย่าง
ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นจำนวนเงิน 6 ล้านบาท
จะต้องเสียค่าอากรแสตมป์หรือ ภาษี หัก ณ ที่จ่าย 0.5% = 30,000 บาท
เงินรางวัลที่เราจะได้หลังหักภาษีคือ 5,970,000 ล้านบาท นั่นเอง
2. สลากการกุศลชุดพิเศษ
หากถูกสลากการกุศลชุดพิเศษ
ผู้ถูกรางวัลจะถูกโดนหักค่าอากรแสตมป์
หรือหักภาษี ณ ที่จ่ายทันที เมื่อไปขึ้นเงิน
ด้วยอัตรา 1% ของเงินรางวัล
ตัวอย่าง
ถูกรางวัลสลากการกุศลชุดพิเศษ เป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท
จะต้องเสียค่าอากรแสตมป์หรือ ภาษี หัก ณ ที่จ่าย 1% = 30,000 บาท
เงินรางวัลที่เราจะได้หลังหักภาษีคือ 2,970,000 ล้านบาท นั่นเอง
โดยรางวัลสลากทั้ง 2 แบบนี้
ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ผู้ถูกรางวัลไม่ต้องนำเงินรางวัล
ไปยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี
3. เงินรางวัลจากการชิงโชคอื่นๆ
หากได้รับเงินรางวัลจากการชิงโชค แบบอื่น
เช่น ส่งฝาชิงโชค ทายผลบอลโลก
ตอบคำถามชิงโชคทางทีวี
จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ทันทีเมื่อไปขึ้นเงิน
ด้วยอัตรา 5% ของเงินรางวัล
ตัวอย่าง
หากถูกรางวัลชิงโชค และได้รับเงินรางวัลเป็นเงินสด 6 ล้านบาท
จะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 5% = 300,000 บาท
เงินรางวัลที่เราจะได้หลังหักภาษีคือ 5,700,000 ล้านบาท นั่นเอง
มีข้อแตกต่างจากกรณีถูกหวยและสลากพิเศษ คือ
นอกจากจะต้องจ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่ายแล้ว
ยังต้องเอามาคิดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย
โดยต้องนำเงินรางวัลที่ได้รับมานี้ รวมกับรายได้อื่น ๆ
ของผู้ถูกรางวัล เพื่อนำไปยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ส่วนใครที่คิดจะหลบเลี่ยงการจ่ายภาษี ระวังให้ดี
กรณี ถูกรางวัลแล้วไม่ยื่นภาษีภายในเวลาที่กำหนด
มีโทษคือต้องชำระเพิ่ม 5% ต่อเดือนของภาษีที่ต้องจ่าย
นับตั้งแต่วันที่ให้ยื่นแบบจนถึงวันชำระภาษี
และมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
กรณี ที่ยื่นเสียภาษีไม่ครบจำนวน
เสียค่าปรับ 1-2 เท่า ของจำนวนภาษี
ที่ต้องจ่ายทั้งหมด
กรณี มีเจตนาที่จะไม่ยื่นแบบภาษีภายในกำหนด
มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือจำคุกสูงสุด 6 เดือน
หรือทั้งจำทั้งปรับ.
กรณี มีเจตนาแจ้งข้อความเท็จ หรือแสดงหลักฐานเท็จ
เพื่อหนีภาษี มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 7 ปี
ปรับตั้งแต่ 2,000-200,000 บาท
เตือนแล้วนะ!!..เห็นไหมว่ากฎหมายก็ได้ระบุโทษไว้ชัดเจน
แล้วจำได้ไหมที่บอกไปแล้วว่าตอนที่ไปขึ้นเงินหรือเอารางวัล
จะมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ 5% ของมูลค่ารางวัลที่จ่ายและนำส่งแก่สรรพากร
ฉะนั้นทางสรรพากรจะมีประวัติข้อมูลถูกหัก ณ ที่จ่ายของผู้ที่ถูกรางวัล
เมื่อรู้แบบนี้แล้วก็อย่าหลบเลี่ยง ทำให้ถูกต้องตามกฎหมายนะ
ถ้าโดนค่าปรับขึ้นมาไม่คุ้มแน่นอน ส่วนตอนได้รางวัลมา
ก็ควรคำนวนและกันเงินเผื่อไว้เพื่อชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้เพียงพอด้วยนะ
เรียบเรียงในแบบ #aomMONEY
แหล่งที่มา : Facebook aomMONEY
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ตอน 37 ลาก่อนทองแดง
ตอน 36 อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...

-
ใครที่นึกเบื่อตลาดติดแอร์ แต่ชื่นชอบตลาดเปิดท้ายรวมถึงของขายแบกกะดินราคาถูก หรือร้านขายตามล็อกหลากหลายแนว มาทอดน่องช็อปให้เพลินที่ "ต...
-
การจ่ายเงินรายได้ไม่ครบถ้วน ว่าจริงๆ แล้วเงินที่ทางผู้จ้างได้จ่ายให้ผู้รับจ้างไม่ครบนั้น เพราะว่าทางผู้จ้างได้หักภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น