1. ประเทศเยอรมนี คว้าแชมป์เวลาทำงานแบบเบา ๆ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 ปัจจุบันมีจำนวนชั่วโมงการทำงานเฉลี่ย 1,330 ชั่วโมงต่อปี หรือประมาณ 25.6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยมีรายได้เฉลี่ยที่ 35.33 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง มีอัตราว่างงาน 6% ในปี พ.ศ. 2554
2. ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีจำนวนชั่วโมงการทำงานเฉลี่ย 1,336 ชั่วโมงต่อปี หรือราว 25.7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ได้ค่าเหนื่อยสูงถึง 42.67 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง มีอัตราว่างงาน 4.4%
3. ประเทศฝรั่งเศส มีจำนวนชั่วโมงการทำงานเฉลี่ย 1,392 ชั่วโมงต่อปี หรือเฉลี่ย 26.8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ค่าตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 34.26 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง ขณะที่อัตราว่างงาน 9.3%
4. ประเทศออสเตรีย มีจำนวนชั่วโมงการทำงานเฉลี่ย 1,431 ชั่วโมงต่อปี หรือราว 27.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ รายได้เฉลี่ยประมาณ 36.63 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง อัตราว่างงาน 4.2%
5. ประเทศเบลเยี่ยม มีจำนวนชั่วโมงการทำงานเฉลี่ย 1,446 ชั่วโมงต่อปี หรือราว 27.8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แรงงานได้ค่าเหนื่อยกันประมาณ 38.90 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง และมีอัตราว่างงาน 7.2%
6. ประเทศไอร์แลนด์ มีจำนวนชั่วโมงการทำงานเฉลี่ย 1,469 ชั่วโมงต่อปี หรือเฉลี่ย 28.3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ได้ค่าตอบแทนตกเป็นเงินถึง 45.53 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง มากเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม และมีอัตราว่างงาน 14.6% ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์มองว่า ค่าตอบแทนที่สูงเช่นนี้เป็นอุปสรรคต่อการสร้างงาน
7. ประเทศเดนมาร์ก มีจำนวนชั่วโมงการทำงานเฉลี่ย 1,496 ชั่วโมงต่อปี หรือตกประมาณ 28.8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ค่าตอบแทนสูงที่สุดของกลุ่มที่ 48.82 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง มีอัตราว่างงาน 7.7%
8. ประเทศลักเซมเบิร์ก มีจำนวนชั่วโมงการทำงานเฉลี่ย 1,565 ชั่วโมงต่อปี หรือ 30.1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จ่ายค่าแรงอย่างงามเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม 46.78 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง และมีอัตราว่างงาน 4.9%
9. ประเทศฟินแลนด์ มีจำนวนชั่วโมงการทำงานเฉลี่ย 1,578 ชั่วโมงต่อปี หรือ 30.3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จ่ายค่าเหนื่อยราว 33.63 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง และมีอัตราว่างงาน 7.9%
10. ประเทศอังกฤษ มีจำนวนชั่วโมงการทำงานเฉลี่ย 1,611 ชั่วโมงต่อปี หรือ 31 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จ่ายค่าแรงตกประมาณ 31.27 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง และมีอัตราว่างงาน 8%
ขณะที่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้กำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้แรงงานต่างเพิ่มชั่วโมงการทำงานให้ยาวนานขึ้น โดยจำนวนชั่วโมงทำงานในสหรัฐปี 2554 อยู่ที่ 1,797 ชั่วโมงต่อปี หรือเฉลี่ย 34.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ทั้งนี้ มาร์ก คีส หัวหน้าแผนกการจ้างงานของโออีซีดี ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ความมั่งคั่งและขีดความสามารถในการผลิตมีส่วนอย่างมากต่อโครงสร้างการจ้างงานของแต่ละประเทศ โดยประเทศร่ำรวยมีแนวโน้มที่จะมีจำนวนชั่วโมงการทำงานน้อยกว่า เนื่องจากมีขีดความสามารถในการผลิตแข็งแกร่งและใช้เครื่องจักรแทนคน ทำให้จำนวนชั่วโมงทำงานลดลง
แหล่งที่มา เว็บไซต์กระปุกดอทคอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น