วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ใครกันคือ "ปัญจวัคคีย์" ของคุณ?

บางคนบอกว่า เจ้าของบริษัท สำคัญที่สุด
เพราะเขาคือผู้นำ คือผู้กำหนดวิสัยทัศน์
ถ้าไม่มีเขา ต่อให้มีพนักงานเป็นร้อย บริษัทก็คงหลงทาง

แต่บางคนก็บอกว่า ลูกน้องระดับปฏิบัติการ สำคัญที่สุด
เพราะพวกเขาคือคนลงมือทำ คือผู้อยู่หน้างานจริง
ถ้าไม่มีพวกเขา ต่อให้วิสัยทัศน์ดีแค่ไหน ก็ไม่มีคนลงมือทำ

ในความคิด  ทุกคนสำคัญด้วยกันทั้งนั้น

เจ้าของสำคัญนั้นใช่ ลูกน้องระดับปฏิบัติการสำคัญนั้นใช่
แต่มีคนอีกกลุ่มนึง ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักแห่งความสำเร็จขององค์กร
แต่มักถูกมองข้ามไป ต่อเมื่อเกิดปัญหาแล้วจึงพึ่งรู้
และส่วนใหญ่แก้ยากมาก
คนกลุ่มนั้นก็คือ "คนทำงานระดับกลาง"

ที่จะเชื่อมต่อเจ้าของบริษัทเข้ากับพนักงานระดับปฏิบัติการ
อาทิ ผู้จัดการ หัวหน้าฝ่าย เป็นต้น

คนกลุ่มนี้ต้องฉลาดพอ ๆ กับเจ้าของบริษัท
เข้าใจในวิสัยทัศน์ของเจ้าของกิจการว่าเขากำลังอยากไปจุดไหน

ในขณะเดียวกันก็ต้องสื่อสารให้ลูกน้องระดับล่างเข้าใจด้วยว่า
จะแปรเปลี่ยนวิสัยทัศน์เป็นการปฏิบัติงานจริงได้อย่างไร

ยุคนี้บริษัทเกิดใหม่เต็มไปหมด
ส่วนใหญ่แล้วก็เริ่มจากบริษัทเล็ก ๆ มีเจ้าของกับพนักงานไม่กี่คน

ตอนแรก เจ้าของก็ยังลงมาสั่งการเอง ลงมาลุยไปกับลูกน้อง
แต่พอบริษัทโตขึ้นเรื่อย ๆ พนักงานมากขึ้นเรื่อย ๆ
เจ้าของจะเริ่มวิ่งวุ่นจนหลุดในหลายจุด เพราะดูแลไม่ทั่วถึง
วิสัยทัศน์ยังคงอยู่ แต่ระดับปฏิบัติการเริ่มไม่เข้าใจ เพราะหลายคนเข้ามาใหม่
ไม่รู้ว่างานที่กำลังทำอยู่ มันคืออะไร และต้องการไปสู่จุดไหน
นานวันเข้า บริษัทก็จะเริ่มเละ

เจ้าของไม่เข้าใจลูกน้อง ลูกน้องก็ไม่เข้าใจเจ้าของ
และองค์กรนั้นก็ได้แต่รอวันว่า
จะมี "คนทำงานระดับกลาง" นั้นมาเป็นตัวเชื่อมหรือไม่
ถ้ามี ก็ดีไป
แต่ถ้าไม่มี องค์กรนั้นก็จะเริ่มถดถอย ประสิทธิภาพลดลง
จนอาจต้องยุบองค์กรลงมาเหลือเล็ก ๆ เท่าเดิม
หรือถ้าโชคร้าย ก็อาจต้องปิดตัวไปเลย

ทางออกของปัญหานี้
พระพุทธเจ้าเข้าใจเรื่องนี้ดี
เมื่อท่านตรัสรู้ สิ่งแรกที่ท่านทำก็คือ
ท่านต้องหาคนที่เข้าใจเรื่องที่ท่านเข้าใจ
คนที่เข้าใจเรื่องนี้ พอ ๆ กับท่าน
นั่นคือ "ปัจวัคคีย์" ทั้งห้า
หรือคนที่จะช่วยเผยแผ่ศาสนาด้วยความเข้าใจในระดับลึกซึ้ง

สำหรับคนเป็นเจ้าของบริษัท
คุณต้องหาว่า ใครกันคือ "ปัญจวัคคีย์" ของคุณ?
อาจไม่ต้อง 5 คนก็ได้
แต่ต้องเป็นคนที่เข้าใจวิสัยทัศน์ เป็นตัวตายตัวแทนคุณได้

จากนั้นคุณต้องยอมลดบทบาทตัวเองลงมา
ให้เขาได้จัดการหลาย ๆ เรื่องแทนคุณบ้าง
ให้เขาได้ผลประโยชน์ในฐานะหุ้นส่วนธุรกิจบ้าง

เมื่อนั้นคุณจะค่อย ๆ เริ่มสร้างคน
คนเหล่านี้แหละที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน
ไม่ต้องฝากไว้ที่ตัวคุณอย่างเดียว

ตึกที่มั่นคง
นอกจากฐานรากต้องมั่นคง
บนยอดตึกดูสวยงาม โดดเด่นเป็นสง่า

ตัวตึก ยังเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้
ถ้าไม่อยากเหนื่อยไปจนตาย
ถ้าอยากขยายธุรกิจได้ไม่รู้จบ
คุณต้องหา "คนทำงานระดับกลาง" คนนั้น
คนที่จะมาเชื่อมคุณกับลูกน้อง
แล้วพาองค์กรไปตามวิสัยทัศน์ของคุณ

แหล่งที่มา   Facebook : Boy's Thought

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...