วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ความสุขเริ่มที่ใจ

หลายคนทำอะไรต่ออะไรมากมายเพราะอยากได้ความสุข
แต่ก็ไม่พบความสุขเสียที ทั้งนี้ก็เพราะมีสิ่งหนึ่งที่เขามองข้ามไป
นั่นคือ การดูแลรักษาใจของตน ซึ่งต้องอาศัยการหมั่นมอง
หมั่นสังเกตจิตใจของตนอยู่เสมอ

เป็นเพราะละเลยจิตใจของตน ผู้คนจึงนอกจากหาความสุข
ไม่พบแล้ว ยังรู้สึกเหินห่างหมางเมินกับใจตน การอยู่คนเดียว
จึงเป็นความทุกข์ทรมาน เกิดความรู้สึกเหงาเปล่าเปลี่ยว
ทั้ง ๆ ที่มิตรที่ดีที่สุดนั้นพบได้ที่ใจตนเช่นกัน

เมื่อใดก็ตามที่พบว่าความสุขหาได้ที่ใจ และมิตรที่ประเสริฐที่สุด
ก็คือใจของตน เมื่อนั้นเราก็มีความสุขได้ในทุกหนแห่ง เจออะไร
ก็ไม่ทุกข์ มีเท่าไรก็ไม่รู้สึกยากไร้ อยู่คนเดียวก็ไม่รู้สึกอ้างว้าง
ใครจะมองเราอย่างไรใจก็ไม่หวั่นไหว สูญเสียเท่าใดใจก็ไม่เสียศูนย์

ภาวะเช่นนี้ย่อมประเสริฐกว่าชีวิตที่ร่ำรวยมั่งคั่ง มียศศักดิ์อัครฐาน
ชื่อเสียงขจรไกล แต่ข้างในกลับไร้สุข ไม่รู้สึกพอในสิ่งที่ได้มา
หวั่นไหวเพราะกลัวสูญเสีย และหงอยเหงาอ้างว้างเพราะไร้เพื่อนแท้

น้อยคนตระหนักว่า มีความสุขอีกชนิดหนึ่งที่ประเสริฐกว่า
ขณะที่ความสุขประเภทแรกต้องอาศัยการเสพ
ความสุขประเภทหลังเกิดจากการกระทำ เช่น
การทำความดี เอื้อเฟื้อผู้อื่น หรือเกื้อกูลส่วนรวม
รวมทั้งการทำสิ่งยากให้สำเร็จด้วยความเพียรของตน
ความสุขประเภทนี้เป็นความสุขทางใจ ทำให้จิตใจเกิดปีติ
แช่มชื่นเบิกบานหรือเกิดความภาคภูมิใจ ระลึกนึกถึงเมื่อใด
ก็มีความสุขเมื่อนั้น แม้กาลเวลาจะผ่านไปหลายปีก็ตาม

ความปีติ แช่มชื่นเบิกบาน หรือความภาคภูมิใจ
แม้ไม่หวือหวาเท่ากับความสนุกตื่นเต้นจากการเสพ
แต่ประณีต ลุ่มลึกและช่วยเติมเต็มจิตใจ ทำให้สัมผัสได้
ถึงคุณค่าและความหมายของชีวิต อีกทั้งยังเป็นสะพาน
ไปสู่ความสงบเย็นในจิตใจ อันเป็นอีกสิ่งหนึ่ง
ที่ผู้คนโหยหาในส่วนลึกของจิตใจ

การได้ครอบครองโภคทรัพย์แม้ให้ความสุขใจแก่เราอย่างรวดเร็ว
แต่ก็จางหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน อีกทั้งยังตามมาด้วยความทุกข์
เพราะมันกลายเป็นภาระที่ต้องแบก สิ่งที่ยั่งยืนคงทนกว่าคือ
ความสุขจากการทำความดี รวมทั้งความสงบที่เกิดจากการฝึกจิต
ความสุขดังกล่าวไม่เพียงหล่อเลี้ยงใจให้เบิกบาน
มีพลังในการทำงาน ยังช่วยให้เราเผชิญกับ
ความผันผวนปรวนแปรในชีวิตโดยไม่จมดิ่งในทุกข์

นอกจากเติมอาหารให้กาย หาทรัพย์มาใส่บ้านแล้ว
การเติมสุขให้ใจด้วยการทำความดี ช่วยให้ผู้อื่น
มีความสุขและฝึกจิตอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่มิอาจละเลยได้

หากหวังความสุขจากทรัพย์สมบัติ ชื่อเสียง เกียรติยศ
ความสำเร็จ ก็ไม่มีวันพบสุขอย่างแท้จริง แม้แวดล้อม
ด้วยบริษัทบริวารที่สนองและปรนเปรอทุกสิ่งสรรพ
อยู่ในคฤหาสน์อันโอฬาร หรือสถานที่อันงามวิจิตร
ก็ยากที่จะพึงพอใจในชีวิตได้ เพราะสุขที่แท้จริงนั้น
ไม่ได้อยู่ข้างนอก แต่อยู่ในใจเราต่างหาก

ใจที่มองเป็น เห็นถูก มีเมตตา เข้าใจความจริงของชีวิต
และรู้จักปล่อยวาง คือใจที่เปี่ยมสุข สุขจึงมิใช่สิ่งที่ต้อง
ดิ้นรนแสวงหาจากที่ใด หากวางใจให้เป็น ก็พบสุขได้ทันที
ดังนั้นแทนที่จะมองออกไปนอกตัว ควรหันกลับมาที่ใจของตน
ปรับจิตรักษาใจให้ดี ก็จะพบความสุข ดังพระพุทธองค์
ได้ตรัสว่า “จิตที่ฝึกไว้ดีแล้วนำสุขมาให้”

พระไพศาล วิสาโล

ขอเชิญแวะชม website ความสุขประเทศไทย
www.happinessisthailand.com
แพลทฟอร์มความสุขของทุกคน ความสุขเริ่มได้ที่ตัวเอง

แหล่งที่มา  ข้อธรรม คำสอน พระไพศาล วิสาโล 27 ธันวาคม เวลา 21:44 น. ·

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...