วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

"บำเหน็จชราภาพ" จากกองทุนประกันสังคม

ในจำนวนเงินสมทบ 5% ที่ท่านส่งสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมนั้น 3% เป็นเงินออมกรณีชราภาพ นายจ้างช่วยสมทบอีก 3% รวมเป็น 6% ซึ่งสำนักงานประกันสังคมเก็บสะสมไว้เตรียมจ่ายเป็นบำเหน็จหรือบำนาญเมื่อท่านเกษียณ เช่น ท่านที่มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ท่านจะได้ออ...มด้วยการสมทบกับกองทุนประกันสังคมในอัตรา 3% ของเพดานค่าจ้าง 15,000 บาท คิดเป็นเงิน 450 บาท นายจ้างสมทบอีก 450 บาท รวม 900 บาทต่อเดือน

ท่านที่เกษียณแต่สมทบไม่ครบ 180 เดือน มีสิทธิรับ "บำเหน็จ" จ่ายเป็นก้อนครั้งเดียว ส่วนท่านที่สมทบตั้งแต่ 180 เดือนขึ้นไป จะมีสิทธิรับ "บำนาญ"


ท่านผู้ประกันตนได้ออมกับกองทุนประกันสังคมในอัตรา 3% ของเพดานค่าจ้าง 15,000 บาท คิดเป็นเงินออมสูงสุด 450 บาท นายจ้างสมทบอีก 450 บาท รวม 900 บาทต่อเดือน .. ระหว่างที่ทำงาน ท่านจะได้สะสมเงินออมนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อรอรับบำเหน็จหรือบำนาญเมื่อเกษียณ โดยมีข้อแม้ 2 ข้อ คือ 1. เกษียณจากการทำงาน และ 2. อายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์

เมื่อเข้าเกณฑ์ทั้ง 2 ข้อ เราก็จะมาดูระยะเวลาที่สมทบ คนที่สมทบไม่ครบ 180 เดือน มีสิทธิรับบำเหน็จ (ตามที่โพสต์ไปเมื่อวาน) ส่วนคนที่สมทบครบ 180 เดือน (= 15 ปี) ขึ้นไป จะมีสิทธิรับ "บำนาญ" จ่ายเป็นรายเดือนตลอดชีวิต

เงินบำนาญนี้คำนวณตามสูตร แต่ละคนจะได้รับบำนาญไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือ
  1. ระยะเวลาที่สมทบ (ยิ่งสมทบนาน ยิ่งได้บำนาญมาก) และ 
  2. ค่าจ้างเฉลี่ยที่ได้รับในช่วง 60 เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณ (ยิ่งเงินเดือนสูง ยิ่งได้บำนาญมาก แต่มีเพดานค่าจ้างที่มาใช้คำนวณไม่เกิน 15,000 บาท)

ตัวอย่างการคำนวณ “บำนาญชราภาพ” จากกองทุนประกันสังคม

ท่านผู้ประกันตนได้ออมกับกองทุนประกันสังคมในอัตรา 3% ของเพดานค่าจ้าง 15,000 บาท คิดเป็นเงินออมสูงสุด 450 บาท นายจ้างสมทบอีก 450 บาท รวม 900 บาทต่อเดือน .. ระหว่างที่ทำงาน ท่านจะได้สะสมเงินออมนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อรอรับบำเหน็จหรือบำนาญเมื่อเกษียณ

หากครบเกณฑ์ 3 ข้อ คือ
  1. สมทบครบ 180 เดือน (หรือ 15 ปี) ขึ้นไป
  2. เกษียณจากการทำงาน และ 
  3. อายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์
จะมีสิทธิรับ "บำนาญ" จ่ายเป็นรายเดือนตลอดชีวิต

เงินบำนาญนี้คำนวณตามสูตร ดังนี้
15 ปีแรกที่สมทบ => รับบำนาญพื้นฐานในอัตรา 20% ของค่าจ้าง
ปีที่ 16 เป็นต้นไป => รับบำนาญส่วนเพิ่ม ปีละ 1.5% ของค่าจ้าง

โดยการคำนวณอัตราเงินสมทบและอัตราเงินบำนาญในระบบประกันสังคม
ใช้ฐานค่าจ้างไม่ต่ำกว่า 1,650 บาท และไม่เกิน 15,000 บาท ไม่ว่าค่าจ้างจริงจะเป็นเท่าใดก็ตาม


ปล 1. เนื่องจากกองทุนกรณีชราภาพเริ่มจัดเก็บเงินสมทบเดือน ธันวาคม 2541 ดังนั้น จึงจะมีคนที่สมทบครบ 15 ปีและมีสิทธิรับบำนาญกลุ่มแรกในปลายปี 2556 - ต้นปี 2557  ... ท่านที่เกษียณในช่วงนี้จึงมีสิทธิรับบำเหน็จ ซึ่งตลอดเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา กองทุนจ่ายเงินบำเหน็จไปแล้วมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท

ปล 2. ท่านที่เป็นผู้ประกันตนภาคสมัครใจตามมาตรา 39 ก็ได้ออมเหมือนกันในอัตราเดือนละ 288 บาท

แหล่งที่มา   Facebook : SSO Savings Club

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...