นายทวีวัฒน์ กีรติวานิชย์ นิติกรชำนาญการ กรมสรรพากร เปิดเผยว่า จากการที่ตัวแทนประกันชีวิตระดับที่ปรึกษาทางการเงิน มีการขายประกันให้ผู้บริหาร หรือเรียกว่า key man protection โดยบริษัทจะเป็นผู้จ่ายเบี้ยประกันให้ และเบี้ยที่จ่ายจะคิดเป็นรายได้ของผู้บริหาร ซึ่งกำลังได้รับความนิยม เพราะกฎหมายภาษีเปิดช่องให้สามารถนำเบี้ยประกันดังกล่าวมาเป็นหักเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัท ทำให้รายได้ลดลง และเสียภาษีน้อยลง
ทั้งนี้ ตามกฎหมายภาษี เบี้ยที่จะนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทได้จะต้องเป็นประกันชีวิตที่คุ้มครองไม่ต่ำกว่า 10 ปี และต้องเป็นการซื้อให้ผู้บริหารที่มีอำนาจในการบริหารองค์กรทุกคนหากไม่เข้าเงื่อนไขนี้จะไม่ได้สิทธิดังกล่าว เช่น ซื้อให้ผู้บริหารคนใดคนหนึ่ง จะไม่เข้าข่ายเพราะถือว่าเป็นการให้โดยเสน่หา ไม่ใช่เป็นการให้โดยทั่วไป ส่วนประกันชีวิตกลุ่ม ไม่สามารถนำมารวมเป็นค่าใช้จ่ายได้ เพราะถือว่าเป็นความคุ้มครองที่จบปีต่อปี
"หากไม่เข้าข่ายนี้ กรมสรรพากร จะบวกค่าใช้จ่ายดังกล่าวกลับเป็นรายได้ พร้อมคิดดอกเบี้ยปรับ ซึ่งใครที่ทำผิดมาตลอดสามารถเข้ามาเจรจากับสรรพากรได้ ถ้าพิสูจน์แล้วเป็นความผิดโดยสุจริตใจก็เจรจากันได้"นายทวีวัฒน์ กล่าว
นายทวีวัฒน์ กล่าวว่า หากบริษัทซื้อกรมธรรม์ยูนิตลิงค์ และยูนิเวอแซลไลฟ์ ให้ผู้บริหาร ไม่ว่าจะกี่ปี ก็ไม่สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ เพราะถือเป็นกรมธรรม์เพื่อการลงทุน
- เครื่องจักร ให้หักเป็นค่าใช้จ่ายในรูปของค่าเสื่อมราคารายปีได้ไม่เกิน 20% ภายใน 5 ปี และ
- อาคารสำนักงานให้หักคค่าเสื่อมได้ปีละ 5% และไม่เกิน 20%
นายธิติวัฒน์ เธียรวราวัฒน์ ผู้จัดการขยายงาน 1 บริษัทกรุงเทพประกันชีวิต เปิดเผยว่า กล่าวว่า การอบรมหลักสูตรที่ปรึกษาด้านการประกันภัยรุ่น 2 ได้เน้นเรื่องการขายประกันให้กับผู้บริหารของบริษัทมากกว่าจะให้ขายประกันกลุ่มแก่พนักงาน เพราะสามารถบริหารภาษีให้กับองค์กรได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และทุกบริษัทที่ได้เข้าไปเสนอแผนประกันดังกล่าว ส่วนใหญ่ยอมรับที่จะใช้ประกันชีวิตเข้าไปเป็นเครื่องมือในการบริหารภาษีบริษัท
"เท่าที่ผมไปเสนอ ผู้บริหารบริษัทจะรู้สึกชอบมากว่า มีแบบนี้ด้วยเหรอ ที่ผ่านมายังไม่มีตัวแทนเสนอแนวทางดังกล่าวให้เขาเลย มีแต่ไปขายตรงให้ผู้บริหาร เขาก็ควักเงินส่วนตัวมาซื้อ แต่ยังไม่เคยเสนอให้บริษัทซื้อประกันให้ผู้บริหาร ซึ่งตลาดมีความต้องการมาก"นายธิติวัฒน์ กล่าว
นายธิติวัฒน์ กล่าวว่า การเสนอให้บริษัทซื้อประกันชีวิตที่คุ้มครองระยะยาว สามารถที่จะทำให้บริษัทจ่ายภาษีนิติบุคคลลดลงได้ถึง 10% ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินจะต้องเป็นผู้ที่เข้าใจเรื่องบัญชี และภาษี เป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมาตัวแทนทั่วไปยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าวมากนัก ส่วนใหญ่จึงจะเห็นเฉพาะการเข้าไปขายประกันภัยที่บริษัทจะซื้อเพื่อคุ้มครองทรัพย์สินของบริษัท และการให้ผู้กู้เงินซึ่งเป็นผู้บริหารทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อที่กู้มา
แหล่งที่มา เว็บไซต์โพสทูเดย์ 27 มิถุนายน 2555 เวลา 12:48 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น