วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ความสุขบนเส้นทางของตัวเอง

เมื่อยังวัยคะนอง เราจะมองว่าคนที่คิดไม่เหมือนเรานั้นผิด
คนที่ใช้ชีวิตไม่สอดคล้องกับความเชื่อของเรานั้น ไม่ได้เรื่อง
คนอื่นนั้นโง่ไปหมด มีแต่เราที่ฉลาดอยู่คนเดียว

ใจเราแคบเหลือเกิน เที่ยวตัดสินผู้คนไปทั่ว
แต่เมื่อเติบโตขึ้น (ไม่ใช่อายุ แต่คือความคิด)
เราจะ "ตัดสิน" ผู้คนน้อยลง
เราจะเข้าใจว่าชีวิตนั้นมีหลากหลายรูปแบบ

ไม่มีใครดีกว่าใคร เราแค่แตกต่างกัน
เป้าหมายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
และถึงแม้จะมีเป้าหมายเดียวกัน
แต่หนทางไปสู่เป้าหมายนั้นก็มีอยู่ล้านวิธี

ใครกันจะบอกได้ว่าทางไหนดีกว่า?
คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
เพราะเมื่อคืนมีโอกาสได้นั่งดื่มพูดคุยกับเพื่อนสมัยเรียน
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานมาก บางคนไม่เจอกันเป็นสิบปี

พวกเราบางคนอยู่หอพักห้องเดียวกัน
กินนอนร่วมกันมาหลายปี
แล้วก็แยกย้ายไปมีชีวิตของใครของมัน
วันนี้กลับมารวมกันอีกครั้ง
เราจึงนั่งอัพเดทชีวิตกัน...

คนนึงทำงานประจำที่เดียวตั้งแต่เรียนจบ
อีกคนนึงแทบไม่เคยทำงานประจำเลย
คนนึงลูกน้องเป็นร้อย ๆ อยู่บริษัทมหาชน
อีกคนนึงตั้งบริษัทของตัวเอง ลูกน้องแทบไม่มี
คนนึงทำกำไรจากพอร์ตหุ้นเดือนละเป็นล้าน
อีกคนพอใจลงทุนง่าย ๆ ไปช้า ๆ ในกองทุนรวม
คนนึงทำงานหนักทั้งวัน ตำแหน่งใหญ่โต
อีกคนทำงานสบาย ๆ ขอแค่มีเวลาออกกำลังกาย
คนนึงกำลังจะแต่งงาน
อีกคนนึงไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีงานแต่ง
คนนึงชอบชีวิตกลางแจ้ง ขี่จักรยานไปทุกที่
อีกคนนึงชอบความหรูหรา ขับรถไม่ต่ำกว่าเบนซ์

วันนี้เราต่างมีชีวิตที่ไม่เหมือนกันเลย
แต่กลับลงตัวในแบบของเราเอง
ไม่มีใครมีชีวิตดีกว่าใคร
เราแค่มีชีวิตที่ดีแตกต่างกัน

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เราอาจจะถกเถียงกันว่า
เฮ้ย ทำไมไม่ทำแบบนั้น ไม่ทำแบบนี้วะ
เฮ้ย ใช้ชีวิตแบบนี้สิ ทำงานแบบนี้สิดีกว่าตั้งเยอะ

แต่ครั้งนี้เรากลับพบว่า ใจเรา "กว้าง" มากขึ้น
เราเข้าใจว่าแต่ละคนมีที่ทางของตัวเอง
แต่ละคนมีรูปแบบชีวิตในแบบของตัวเอง
จะทำงานอะไรก็ได้ จะใช้ชีวิตแบบไหนก็ได้
ขอแค่ให้ชีวิตรู้สึกว่ามีความสุขก็พอแล้ว

ถ้าพูดแบบภาษาสมัยนี้ก็คงต้องบอกว่า
"เอาที่สบายใจ"

เมื่อคืน นอกจากจะได้พบปะเพื่อนฝูงแล้ว
ได้บทเรียนบทนี้ติดตัวกลับมาที่บ้านว่า
การตัดสินผู้อื่น ทำให้เราเป็นทุกข์ ทั้งตัวเราและผู้อื่น
ที่หลาย ๆ คนทะเลาะกันอยู่ทุกวันนี้
ไม่ว่าจะในโลกออนไลน์หรือโลกจริง
ก็เพราะดันไป "ตัดสิน" คนอื่นว่าผิดที่คิดไม่เหมือนฉัน
ทำไม่เหมือนฉัน เป็นไม่เหมือนฉัน

แต่ถ้าเราจะลองผลักผนังใจออกไปให้กว้าง ๆ ขึ้น
แล้วทำความเข้าใจว่า เราไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาล
เราไม่ใช่ผู้คุมกฎที่จะบอกได้ว่าแบบนั้นถูก แบบนี้ผิด
หนทางชีวิตนั้นมีมากมายเกินกว่าจะต้องเลือกว่าทางไหนใช่ ทางไหนผิด

แอ๊ด คาราบาว เคยเขียนเพลงนึงไว้ว่า
"เปิดใจให้กว้าง เราจะได้เป็นสุข
ใจมีแต่ทุกข์ เป็นใจคับใจแคบ"
จริงยิ่งกว่าจริง

ขอให้มีความสุขบนเส้นทางของตัวเอง
ไม่ต้องไปตัดสินใจใคร
ไม่ต้องฟังคำใครมาตัดสินเรา
เท่านี้ชีวิตก็ดีมาก ๆ แล้วล่ะ

แหล่งที่มา    Facebook : Boy's Thought

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...