วันนี้ (26 พ.ค.2555) ที่ จ.อุดรธานี นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในระหว่างการเดินทางเยี่ยมชมระบบการให้คำปรึกษาการรักษาด้วยภาพและเสียง ผ่านโปรแกรมสไกป์ ของ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลดงหวาย อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พร้อมมอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ว่า ช่วงฤดูฝนนี้ประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกร ผู้ที่มีอาชีพทำไร่ทำนาจะมีความเสี่ยงสัมผัสเชื้อโรคฉี่หนูหรือโรคเลปโตสไปโรซีส (Leptospirosis) สูงกว่าฤดูอื่นเนื่องจากมีแหล่งน้ำขังจำนวนมาก โดยเชื้อโรคจะอยู่ในฉี่ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น หนู วัว ควายจะพบมากที่สุดในฉี่ของหนูทุกชนิด และเชื้อจะปนเปื้อนอยู่ตามแอ่งน้ำขังต่างๆ ดินโคลนที่เฉอะแฉะ และเข้าสู่ร่างกายคนเราได้ 2 ทาง คือ
- จากการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อฉี่หนูเข้าไป และ
- เชื้อไชเข้าทางแผล ตามเยื่อบุในปาก หรือตา หรือเข้าที่รอยผิวหนังถลอก รวมทั้งผิวหนังปกติที่แช่น้ำนานๆ ก็สามารถไชผ่านไปได้
รมว.สธ. กล่าวด้วยว่า สถานการณ์โรคในปี 2555 ตั้งแต่มกราคม-พฤษภาคมสำนักระบาดวิทยา รายงานพบผู้ป่วยโรคฉี่หนูทั่วประเทศ 722 รายเสียชีวิต 17 ราย พบผู้ป่วยกระจายอยู่ทุกภาค มากที่สุดในภาคอีสาน พบร้อยละ 59 รองลงมาภาคใต้ร้อยละ 28 จังหวัดที่พบผู้ป่วยมากที่สุด ได้แก่
- สุรินทร์ 78 ราย
- ศรีสะเกษ 71 ราย และ
- บุรีรัมย์ 57 ราย
- เกษตรกรร้อยละ 59
- รองลงมาอาชีพรับจ้างร้อยละ 19 และ
- นักเรียนร้อยละ 9
ด้าน นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า โรคฉี่หนูขณะนี้ทั่วโลกยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่สามารถป้องกันไม่ให้เจ็บป่วยได้ หากต้องเดินลุยน้ำ ย่ำโคลน ต้องใส่รองเท้าบู๊ท และเมื่อขึ้นจากน้ำต้องรีบชำระล้างทำความสะอาดร่างกาย กำจัดขยะ โดยเฉพาะขยะเปียก เช่น เศษอาหาร ไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนูเก็บอาหารที่ค้างคืนในที่มิดชิด ล้างผักสดที่เก็บจากท้องไร่ท้องนาให้สะอาดก่อนรับประทาน
นพ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า หากมีอาการไข้สูงอย่างทันทีทันใด ปวดเมื่อยตามร่างกายมาก ควรไปพบแพทย์แจ้งประวัติการลุยน้ำ ย่ำโคลนให้แพทย์ทราบด้วยเพื่อให้การรักษาอย่างถูกต้อง ขณะนี้โรงพยาบาลทุกแห่งมียาปฏิชีวนะรักษาหายขาด อย่าซื้อยากินเอง เพราะยาลดไข้แม้ว่าจะทำให้ไข้ลดก็ตาม แต่ไม่ได้ฆ่าเชื้อโรค เชื้อโรคยังอยู่ในร่างกาย จะทำให้อาการรุนแรงขึ้น อาจเสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อน เช่น ปอดบวมไตวายหัวใจล้มเหลว สมองและไขสันหลังอักเสบ ที่ผ่านมาอาการของโรคนี้ มีประชาชนบางคนเข้าใจผิด คิดว่าเป็นไข้จากปวดเมื่อยเพราะทำงานหนักไปซื้อยาลดไข้กินและนวดบรรเทาเมื่อย ทำให้อาการรุนแรงและเสียชีวิต โดยโรคนี้สามารถป่วยซ้ำได้อีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น