วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

7 ขั้นตอนการระงับความโกรธในที่ทำงาน

เชื่อว่าหลายๆ ครั้งที่คนจำนวนมากต้องพยายามอดกลั้นความรู้สึกโกรธไม่ให้แสดงออกมาในที่ทำงาน ไม่ว่าปัญหานั้นจะเกิดจากเจ้านายจอมจู้จี้ หรือเพื่อนร่วมงานที่แสนจะขี้เกียจก็ตาม แต่บางคนที่มักปรี๊ดแตกได้ง่าย อาจกังวลว่าหากวันใดวันหนึ่งเกิดระงับบันดาลโทสะไม่ไหว จนระเบิดออกมาใส่คนรอบข้าง ก็อาจส่งผลต่อหน้าที่การงานก็เป็นได้ ดังนั้นเราจึงได้นำเคล็ดลับการควบคุมความโกรธมาบอกให้ทราบกัน

1. เดินหนีปัญหาออกมาก่อน
หากว่าคุณกำลังหงุดหงิดกับปัญหาอะไรสักอย่างมา จนไม่สามารถพูดคุยหรือทำงานต่อได้ แนะนำว่าให้ลองเดินไปอยู่ในที่เงียบ ๆ ก่อนเพียงลำพัง เช่น ห้องทำงานส่วนตัว, ห้องน้ำ, หรือดาดฟ้าออฟฟิศ เป็นต้น จากนั้นสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามทำใจให้สงบ เพื่อช่วยให้อารมณ์คุณกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมก่อนจะกลับเข้าไปทำงานต่อ

2. ปลดปล่อยความโกรธด้วยการออกกำลังกาย
เชื่อว่าหลายครั้งที่คุณรู้สึกโมโหมาก ๆ จนอยากจะทำลายข้าวของที่อยู่ตรงหน้าให้พังพินาศให้หมด แต่ช้าก่อน!! เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกอย่างนั้น ให้ออกไปเดินเล่น, วิ่งจ๊อกกิ้ง หรือไม่ก็เดินขึ้นลงบันไดในตึกก็ได้ เพื่อระบายความโกรธออกไปให้หมด ที่สำคัญยังเป็นการออกกำลังในตัวอีกด้วย

3. ฟังเพลงสไตล์ชิลๆ เพื่อผ่อนคลาย
หาเพลงบรรเลง หรือเพลงคลาสสิคบางฟัง เพื่อปรับอารมณ์อันยุ่งเหยิงของคุณให้กลับมาอยู่ในโหมดปกติดังเดิม เพราะเสียงดนตรีมีพลังอันน่ามหัศจรรย์ที่ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายขึ้นได้ ลองนั่งหลับตา เปิดเพลงคลอเบา ๆ แล้วปล่อยใจให้เพลิดเพลินไปกับท่วงทำนองของเพลงดูสิ มันช่วยได้จริง ๆ นะ

4. รู้จักแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น แต่กลับไม่มีใครลุกขึ้นมาจัดการสักที บางทีคุณก็ต้องกล้าลุกขึ้นมาแก้ด้วยตัวเองแล้วล่ะ เพราะบางครั้งยิ่งปล่อยให้คาราคาซังไว้นาน ก็ยิ่งทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น ฉะนั้นถ้าทราบวิธีแก้ปัญหาก็ให้จัดการไปเลย อย่าได้รีรอให้เสียเวลา

5. ให้อภัย
เวลาไม่พอใจใคร แทนที่จะโมโหเกรี้ยวกราดให้ตัวเองเป็นทุกข์ ก็รู้จักปล่อยวางและให้อภัยคนดูบ้างสิ แล้วคุณจะมีความสุขมากขึ้นอีกเยอะจากการไม่เอาใจไปผูกติดไว้กับปัญหา

6. คิดซะว่าเป็นเรื่องขำๆ 
ถ้าเกิดว่าคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด บางทีการสร้างเรื่องสนุกขำขันขึ้นมาแบบหอมปากหอมคอ ก็ช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้นได้บ้าง อย่างไรก็ดี อย่าทำเป็นเล่นมากจนเกินไป เพราะมันทำให้คุณดูไม่เป็นมืออาชีพเลยน่ะสิ

7. ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
หากท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะทำวิธีไหนก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ฉุนเฉียวของตัวเองได้จริง ๆ ก็ลองขอความช่วยเหลือจากคนอื่นดูบ้าง มันไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใด เช่น ลองไปคุยกับผู้ให้คำปรึกษาด้านอารมณ์ หรือไม่ก็เข้าร่วมกลุ่มในคอร์สการบริหารจัดการความโกรธ เพราะในบางครั้งเราก็ต้องการผู้ให้คำ

เมื่อได้ทราบขั้นตอนการควบคุมอารมณ์ในที่ทำงานกันไปแล้ว หากใครสนใจจะลองนำไปทำบ้างก็ได้ ผลที่ได้ก็ส่งผลดีกับตัวคุณเองทั้งนั้น อย่าปล่อยให้อารมณ์เพียงชั่ววูบมาทำลายบรรยากาศดี ๆ ในออฟฟิศ ซึ่งเป็นสถานที่ที่คุณต้องใช้เวลาอยู่เกือบทั้งวันให้ตึงเครียดมากไปกว่านี้เลยจะดีกว่านะ


แหล่งที่มา    เว็บไซต์กระปุุกดอทคอม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...