- ไม่เพียงแต่ความอร่อยลิ้นเท่านั้น เพราะเห็ดยังมีสรรพคุณทางยาด้วย ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง เบาหวาน อัลไซเมอร์ หลอดเลือดหัวใจอุดตัน และความดันโลหิตสูง เป็นต้น
- ชฎาพร นุชจังหรีด ภาควิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า ประโยชน์ทางการแพทย์ของเห็ดชนดต่างๆ มีมากมาย อาทิ เห็ดหอม หรือเห็ดชิตาเกะเป็นยาอายุวัฒนะ เพราะช่วยลดไขมันในเส้นเลือด อีกทั้งยังเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสและมะเร็งด้วย ส่วนเห็ดหลินจือ มีเบต้ากลูแคน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อร้าย รวมทั้งกระตุ้นภูมิคุ้มกันไวรัส
- เห็ดหูหนู สามารถเพิ่มความแข็งแรงให้เม็ดเลือดขาวในผู้สูงอายุ ทำให้ภูมิต้านทานร่างกายดีขึ้น รวมทั้งช่วยรักษาโรคกระเพาะและริดสีดวง ตามด้วย เห็ดกระดุมหรือเห็ดแชมปิญอง มีบทบาทในการรักษาและป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านมมากที่สุด
วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555
อร่อยได้ประโยชน์กับเมนู "เห็ด"
เห็ด ถูกโหวตให้เป็นตัวเลือกแรกของอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้นที่เย้ายวนสำหรับคนไม่คุ้น ผัก ด้วยรสชาติเหนียว นุ่ม หนึบ ไม่ต่างจาก "เนื้อสัตว์"
อาหารที่ปรุงจากเห็ดหลายๆ ชนิดเป็นเมนูที่หลายคนคุ้นเคยและชื่นชอบ เหตุผลก็คงมีอยู่หลายประการ อย่างแรกเลย ก็คือ รสชาติ อาหารที่ปรุงโดยเห็ดจะมีรสชาติที่อร่อยไม่แพ้พวกเนื้อสัตว์ เนื่องมาจากเห็ดจะมีกรดกลูตามิก ซึ่งเป็นกรดอะมิโน และยังมีสารกัวไนเลต (สารในกลุ่มไรโบนิวครีโอไทด์) ที่จะช่วยในการเกิดรสชาติที่อร่อยโดยธรรมชาตินั่นเอง
หากแต่โปรตีนในเห็ดจัดเป็นโปรตีนพวกที่ไม่สมบูรณ์บางส่วน เมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ แต่ก็ยังมีคุณภาพดีกว่าในผักชนิดอื่นๆ
ในบรรดาเห็ดที่เราบริโภคกันคุ้นชินนั้นยังทำให้ คนอยากผอมต้องเหลียวหลัง เพราะมันปราศจากไขมัน มีปริมาณน้ำตาลและเกลือค่อนข้างต่ำ ผู้รักสุขภาพมักนำเห็ดไปปรุงเป็นอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนักไปในตัว
เนตรนภิส ธนนิเวศน์กุล นักเขียนหมอชาวบ้าน อธิบายว่า การที่เห็ดมีคุณค่าทางอาหารใกล้เคียงผัก โดยเฉพาะเส้นใยอาหาร จึงช่วยเพิ่มปริมาณและน้ำหนักอุจจาระ ทำให้ขับถ่ายได้ง่าย นอกจากนี้ ยังช่วยจับสารเคมีที่เป็นพิษ และทำให้ผ่านลำไส้ได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ได้ ดังนั้นถ้าเรากินข้าวที่มีผักหรือผักกับเห็ดเป็นองค์ประกอบทุกมื้อ (1 ทัพพีต่อมื้อ) และมีผลไม้หลังอาหารก็จะได้เส้นใยอาหารอย่างเพียงพอ
เธอขยายความต่อว่า ถึงเห็ดจะดีอย่างไร ก็ไม่ควรกินเห็ดสดๆ แต่ควรนำไปผ่านกระบวนการความร้อนก่อน เพราะจากการศึกษาการทดสอบการย่อยของโปรตีนในเห็ดระหว่างเห็ดหอมสดกับเห็ดหอมต้มสุกกับอบแห้ง พบว่าเห็ดหอมสดย่อยได้มากกว่า เหตุผลคือ ความร้อนอ่อนๆ จากการต้มจะทำให้โปรตีนในเห็ดเปลี่ยนแปลงสภาพไป และช่วยในการย่อยด้วยเอนไซม์ดีขึ้น หรือในเห็ดสดอาจมีสารยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ในการย่อยโปรตีนนั่นเอง
นอกจากนั้น ก็ยังไม่ควรเก็บเห็ดไว้กินนานเกินไป เนื่องจากจะมีการเปลี่ยนแปลงของสารเคมี เพราะในเห็ดก็จะมีกรดอะมิโนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นสารที่เรียกว่า Biogenic amine ที่จะทำให้เกิดการแพ้อาหารได้ รวมทั้งควรกินเห็ดแต่พอควร อย่ากินจนอิ่มมากเกินไป เพราะเห็ดเป็นอาหารที่ย่อยยาก อาจจะทำให้ผู้ที่มีระบบย่อยอาหารที่อ่อนแอ เกิดอาการเป็นพิษได้ และยังต้องระมัดระวัง คัดเห็ดที่เน่าเสียออก เห็ดที่เน่าเสียจะทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้เช่นกัน
พอได้รู้ว่าเห็ดมีอรรถประโยชน์เยอะเหลือเกิน เย็นนี้ นึกอยากจะทำเมนูเห็ดนานาชนิดขึ้นมาแล้วหรือยังเอ่ย
"ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากโรคร้ายต่างๆ"
แหล่งที่มา เว็บไซต์ THAIZA
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ตอน 37 ลาก่อนทองแดง
ตอน 36 อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...
-
ใครที่นึกเบื่อตลาดติดแอร์ แต่ชื่นชอบตลาดเปิดท้ายรวมถึงของขายแบกกะดินราคาถูก หรือร้านขายตามล็อกหลากหลายแนว มาทอดน่องช็อปให้เพลินที่ "ต...
-
การจ่ายเงินรายได้ไม่ครบถ้วน ว่าจริงๆ แล้วเงินที่ทางผู้จ้างได้จ่ายให้ผู้รับจ้างไม่ครบนั้น เพราะว่าทางผู้จ้างได้หักภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น