วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

28 ก.ค. “วันตับอักเสบโลก”



เตือนคนไทยระวังโรคไวรัสตับอักเสบซี

สมาคมโรคตับ และ เอ็มเอสอี เตือนคนไทยระวังโรคไวรัสตับอักเสบซี ภัยเงียบ

รศ.นพ.ธีระ พีรัชวิสุทธิ์ นายกสมาคมโรคตับแห่งประเทศไทย และ นพ.สุชัย กิจศิริพรชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) ร่วมกันบรรยาย เนื่องในวันตับอักเสบโลก ตามที่องค์การอนามันโลกกำหนดให้วันที่ 28 ก.ค. ของทุกปี เป็น “วันตับอักเสบโลก” เพื่อกระตุ้น และรณรงค์ให้ทุกภาคส่วน รัฐบาล เอกชน รวมไปถึงประชาชนไทยตระหนักถึงภัยร้ายของโรคไวรัสตับอักเสบซี ให้หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี รวมไปถึงการควบคุมและรักษาโรค

รศ.นพ.ธี ระ เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์มีผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี แบบเรื้อรังประมาณ 170 ล้านคนทั่วโลก และ ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีมากกว่า  3 แสนคน ในขณะที่แนวโน้มของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีมีสูงขึ้น โดยในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบซี มีเพียงวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบสายพันธุ์ เอ และ บี

“กลุ่ม เสี่ยงต่อการรับเชื้อไวรัสตับอักเสบซี คือกรณี การใช้เข็มฉีดยาเข้าเส้นร่วมกัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ติดยาเสพติด การสัก เจาะ ตามร่างกายด้วยเครื่องมือที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อ และ การรับโลหิตจากการบริจาคเลือดที่ไม่ได้รับการตรวจคัดกรองก่อน รวมทั้งการใช้เข็มฉีดยาซ้ำ และ เชื้อไวรัสตับอักเสบซี สามารถติดต่อกันได้ทางกระแสเลือด ทั้งจากการสัมผัสกับแผลของผู้ป่วยที่ไม่สะอาด และการใช้ภาชนะร่วมกัน การรับประทานอาหารโดยไม่ใช้ช้อนกลาง การให้นมบุตร” รศ.นพ.ธีระ กล่าว

นพ.สุ ชัย กล่าวว่า คนไข้มักจะไม่ทราบว่าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เนื่องจากไม่มีลักษณะอาการจำเพาะที่บ่งถึงโรคไวรัสตับอักเสบซี ซึ่งอาการเบื้องต้นของคนไข้ อาจมีไข้ต่ำ เมื่อล้า อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร รวมทั้ง คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น และหากคนไข้ไม่ตระหนักว่าเป็นอาการของไวรัสตับอักเสบซี จนเมื่อมีอาการรุนแรงเรื้อรังเป็นโรคตับแข็ง ก็จะมีอาการเช่น ตับม้ามโต ตาเหลืองตัวเหลือง  กล้ามเนื้อลิบ ท้องมาน และเท้าบวม เป็นต้น ส่วนการตรวจทางแพทย์เพื่อหาเชื้อไวรัสตับอักเสบซี สามารถพบเชื้อได้ผ่านการเจาะเลือด แต่บางรายต้องเจาะชิ้นเนื้อตับเพื่อการวินิจฉัย โดยผู้ป่วยมีเชื้อไวรัสตับอักเสบซี และ ปล่อยทิ้งจนเป็นอาการเรื้อรังรุนแรง ไม่ได้รับการตรวจเพื่อรักษา สามารถเป็น โรคมะเร็งตับ

นพ.สุชัย กล่าวเพิ่มเติมไว้ว่า ยา ที่ใช้รักษาจะเป็นยาฉีด ต้องฉีดสัปดาห์ละครั้งร่วมกับยารับประทาน โดยการรักษาเป็นระยะเวลา 24-48 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของเชื้อด้วย และยารักษาไวรัสตับอักเสบให้ตามน้ำหนักของผู้ป่วยเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพใน การรักษาต่อผู้ป่วยแต่ละคน โดยค่าใช้จ่ายในการรักษาอยู่ที่ 2-4 แสนบาท ทั้งขึ้นอยู่กับผู้ป่วยซึ่งหากเข้ารับการตรวจแล้วพบเชื้อไวรัสตับอักเสบอาจ รักษาให้หายขาดได้ก่อนที่จะเกิดความเสี่ยงของการนำไปสู่โรคตับแข็ง และ โรคมะเร็งตับ

 “อย่าง ไรก็ตามคนไข้บางกลุ่มไม่สามารถเข้ารับการรักษาได้ หรือต้องหยุดการรักษากลางคัน แต่คนไข้ทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงยารักษาโรคไวรัสตับอักเสบซี อย่างทั่วถึง เพราะระบบสวัสดิการข้าราชการ หรือระบบประกันสังคม และ โครงการ 30 บาท ช่วยให้ผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบซีสายพันธุ์ 2 และ 3 เข้าถึงการรักษาได้โดยไม่ต้องจ่ายยาเอง” นพ.สุชัย กล่าว

สมาคม โรคตับแห่งประเทศไทย ได้รณรงค์ต่อต้านโรคไวรัสตับอักเสบซี โรคไวรัสตับอักเสบเป็นโรคร้ายที่เป็นภัยเงียบ ประชาชนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ที่แท้จริงเกี่ยวกับโรคนี้ ทั้งนี้โรคไวรัสตับอักเสบซี สามารถรักษาให้หายขาด และ บริษัทเอ็มเอสดี มีการวิจัยและพัฒนายารักษาโรคไวรัสตับอักเสบซี มากว่า 20 ปี โดยอยู่ระหว่างการพัฒนายารักษาที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งคาดว่าอาจมียารักษาโรคไวรัสตับอีกเสบซีชนิดใหม่ ในอีก 5 ปีข้างหน้า


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...