วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

“ศิริราช” สำเร็จผ่าตัดข้อเข่าเสื่อมด้วยหุ่นยนต์ ครั้งแรกในเอเชียอาคเนย์


“ศิริราช” เจ๋ง ผ่าตัดข้อเข่าเสื่อมด้วยหุ่นยนต์ สำเร็จครั้งแรกในเอเชียอาคเนย์ แพทย์ชี้ได้ผลดีกว่า 80% 

วันนี้ (6 ก.ค.2555) ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวแถลงข่าว “ความสำเร็จเป็นครั้งแรกในเอเชียอาคเนย์  ศิริราชล้ำหน้าใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดข้อเข่า ว่า จากที่ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์และกายภาพบำบัด ได้นำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด มาใช้กับผู้ป่วยเป็นเครื่องแรกของไทย และครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ นั่นคือ “หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมบางส่วน” ถือเป็นความก้าวหน้าในการรักษาผู้ป่วยของภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ฯ พร้อมๆ กับการก้าวไปของภาควิชาในปีนี้ที่ครบรอบปีที่ 48”     

ด้าน ศ.นพ.ภานุพันธ์ ทรงเจริญ หัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด กล่าวว่า โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นโรคที่พบได้บ่อยในช่วงวัยกลางคน และจะพบเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นๆ นับเป็นปัญหาสาธารณสุขที่มีความสำคัญมากขึ้นไม่แพ้โรคเรื้อรังอื่นๆ ยิ่งในอนาคตประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมของผู้สูงอายุ   จำนวนของผู้ที่เป็นโรคข้อเสื่อมก็จะมีมากขึ้นตามลำดับ ปัจจุบันเรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาวิชาออร์โธปิดิกส์บูรณสภาพดูแลผู้ป่วยทางด้านนี้โดยเฉพาะถึง 12 คน  นักกายภาพบำบัด  7 คน  และยังผลิตแพทย์เฟลโลว์เฉพาะทางสาขาออร์โธปิดิกส์บูรณสภาพ และสาขาเวชศาสตร์การกีฬาเพื่อดูแลผู้ป่วยโรคข้อเข่า 29 คน โดยให้บริการรักษาผู้ป่วยด้านนี้ด้วยการผ่าตัดส่องกล้อง โรคข้อเข่าเสื่อม เกิดจากกระดูกอ่อนผิวข้อที่หุ้มอยู่รอบส่วนปลายของกระดูก ซึ่งทำหน้าที่กระจายน้ำหนัก รองรับแรงกระแทกที่กดลงมา ถูกทำลาย เป็นเหตุให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของข้อ ได้แก่ ข้อโก่งงอผิดรูป มีน้ำสะสมในข้อเพิ่มขึ้น กระดูกงอกผิดปกติ กล้ามเนื้อและเอ็นรอบข้อหย่อนยาน การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้จะทำให้การเคลื่อนไหวข้อได้จำกัด รวมทั้งทำให้เกิดอาการปวดและบวมที่ข้อ ซึ่งข้อที่เสื่อมมักเป็นข้อที่ต้องรับน้ำหนักของร่างกายโดยตรง เช่น ข้อเข่า ข้อสะโพก  ยิ่งน้ำหนักตัวมากเท่าใด ข้อต้องรับน้ำหนักมากเท่านั้น  ทำให้เกิดความเจ็บปวดทรมานในการใช้ชีวิตประจำวัน  และทำให้โรคอื่นๆ กำเริบขึ้นได้ เนื่องจากขาดการออกกำลังกาย เช่น ความดันโลหิต  เบาหวาน เป็นต้น
     
รศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช แพทย์ผู้รักษาประจำสาขาวิชาออร์โธปิดิกส์ กล่าวว่า การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมนั้น เป้าหมายอยู่ที่ ลดอาการปวดและรักษาการทำงานของข้อให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ การรักษาประกอบด้วย การทำกายภาพบำบัด โดยการบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อ  การใช้อุปกรณ์ช่วยพยุง และการใช้ความร้อนประคบบริเวณที่ปวดบวม ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นอาจใช้ยาร่วมรักษาซึ่งมีทั้งยากิน เพื่อลดปวดและลดการอักเสบ แต่นั่นเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ ซ้ำยังมีผลข้างเคียงจากการใช้ยาต่อไตต่อกระเพาะอาหารและลำไส้  อาจทำให้กระเพาะอาหารมีแผล  หรือทะลุจนมีเลือดออก นอกจากยากินแล้วยังมียาฉีดจำพวกสเตียรอยด์ มีผลให้เกิดการตกตะกอนในข้อ ทำให้ข้อเสื่อมเร็ว ยาฉีดน้ำเลี้ยงข้อเทียม จะทำให้ผิวข้อลื่นมากขึ้น และสุดท้ายคือ การผ่าตัด ด้วยการส่องกล้องหรือเปิดข้อเข่า เพื่อกวาดล้างสิ่งแปลกปลอมในข้อออก  ตัดกระดูกและจัดกระดูกที่โก่งงอให้ตรง และเปลี่ยนข้อเทียมทั้งข้อหรือบางส่วน

รศ.นพ.กีรติ กล่าวว่า การประเมินประสิทธิภาพหลังผ่าตัดด้วยกล้องนั้น พบว่า ภายใน 20 ปีแรก พบ 2 ใน10 เข้ามาเปลี่ยนกระดูกข้อเข่าเทียมใหม่ ขณะที่การประเมินต่อไปอีก 20 ปี พบว่า 80% มีการใช้งานได้ดี ทั้งนี้ สำหรับข้อแนะนำของผู้ป่วย คือ ต้องมาพบแพทย์ปีละ 1 ครั้ง เพื่อพิจารณาอาการเป็นครั้งคราว

แหล่งที่มา    เว็บไซต์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 กรกฎาคม 2555 14:43 น. 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...