วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2555

ระเบียบจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเกิน 60 ปีบริบริบูรณ์ เดือนละ 500 บาท

เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ได้อย่างทั่วถึง โดยการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุรายเดือนๆ ละ 500 บาท ตั้งแต่เมษายน พ.ศ.2552 เป็นต้นไป ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ทั้งนี้เพื่อให้ผู้สูงอายุมีชีวิตที่มีคุณค่า มีเกียรติภูมิ คงศักดิ์ความเป็นมนุษย์ มีวิถีชีวิตที่ไม่แปลกแยกจากชุมชน และอยู่กับครอบครัวได้อย่างปกติสุข

1. ผู้มีคุณสมบัติได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

 (1)  มีสัญชาติไทย
 (2)  มีอายุ 60 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป โดยเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2492
 (3) ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือองค์กร

ปกครองส่วนท้องถิ่นได้แก่ ผู้รับเงินบำนาญ  ผู้รับเงินเบี้ยยังชีพตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย  หรือกรุงเทพมหานคร  ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดให้เป็นประจำ

2. ให้ผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติตามข้างต้นยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้ สูงอายุด้วยตนเองต่อผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2552  จนถึงวันที่ 15  มีนาคม 2552 ในวัน เวลา และสถานที่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด พร้อมหลักฐาน ดังต่อไปนี้

 (1) บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายพร้อมสำเนา
 (2) สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารพร้อมสำเนา  สำหรับในกรณีที่ผู้ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุประสงค์ขอรับเงินเบี้ยยัง  ชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคารในกรณีมีความจำเป็นไม่สามารถมาลงทะเบียนได้ตามวรรค หนึ่ง ผู้สูงอายุอาจมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอรับเงิน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแทน

3. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตรวจสอบคุณสมบัติและหลักฐานของผู้สูงอายุ ที่ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากข้อมูลทางทะเบียนราษฎรแล้วให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ณ ที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถานที่อื่นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ กำหนด ภายในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2552  สำหรับเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลให้จัดส่งรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ให้   อำเภอและจังหวัดทราบตามลำดับ และให้จังหวัดรวบรวมส่งให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นทราบต่อไป

4. การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้แก่ผู้มีสิทธิได้รับตามระเบียบนี้ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ่ายเป็นรายเดือนๆ ละ 1 ครั้ง ในอัตราเดือนละ 500 บาท ดังนี้

 (1) จ่ายเป็นเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
 (2) จ่ายเป็นเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามบุคคลที่ได้รับมอบหมายจาก ผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นลายลักษณ์อักษร

5.ผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตามระเบียบนี้ มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป และให้สิทธิของบุคคลดังกล่าวสิ้นสุดลงในกรณีดังต่อไปนี้

 (1) ถึงแก่กรรม
 (2) ขาดคุณสมบัติตามข้อ ๕
 (3) แจ้งสละสิทธิการขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นลายลักษณ์อักษร ต่อผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอยู่

สอบถามเพิ่มเติม

  • ศูนย์ประชาบดี  โทร. 1300
  • ศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง
  • ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน โทร.1111 ตลอด 24 ชั่วโมง
  • สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร โทร 0-2245-5166 ในวันและเวลาราชการ (เฉพาะกรุงเทพมหานคร)

ครม. ได้อนุมัติปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากเดิมที่จ่าย ให้ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 500 บาทต่อเดือน ในอัตราที่เท่ากันทั้งหมด เป็นผู้ที่มีอายุ
  • 60 -69 ปี จ่าย 600 บาท
  • 70-79 ปี จ่าย 700 บาท
  • 80-89 ปี จ่าย 800 บาท
  • 90 ปีขึ้นไปจ่าย 1,000 บาท
ทั้งนี้การปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2554 จะมีผู้สูงอายุได้รับประโยชน์รวม 6.5 ล้านคน รวมงบประมาณ 52,228 ล้านบาท เพิ่มจากวงเงินเดิม 16,219 ล้านบาท

แหล่งที่มา   เว็บไซต์ okNation วันอังคาร ที่ 18 ตุลาคม 2554


กทม.รับตกเบิก 6 เดือน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

รองผู้ว่าฯ กทม. เผย รับตกเบิกย้อนหลัง 6 เดือน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ กทม. ภายใน 30 มี.ค. นี้

นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงจ่ายเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันไดสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล โดยผู้ที่อายุ 60 - 69 ปี จะได้รับเงิน 600 บาท ผู้ที่มีอายุ 70 - 79 ปี จะได้รับ 700 บาท ผู้ที่มีอายุ 80 - 89 ปี จะได้รับ 800 บาท ขณะผู้ที่มีอายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค .54
ซึ่งปีงบประมาณ 2555 กทม. ได้รับอนุมัติเงินอุดหนุนรัฐบาลในโครงการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุหรือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นจำนวนเงินกว่า 2,000 ล้านบาท แต่เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติให้จ่ายเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันได ทำให้งบประมาณที่ต้องใช้ในการเบิกจ่ายเป็นเบี้ยยังชีพรายเดือนแบบขั้นบันไดสำหรับผู้สุงอายุเพิ่มขึ้น เป็นเงินกว่า 3,890 ล้านบาทส่งผลให้ที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือน ต.ค. 54 - มี.ค. 55 กทม. จำเป็นต้องจ่ายเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุรายละ 500 บาทต่อเดือนไปก่อน

อย่างไรก็ตามขณะนี้ พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 ได้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เรียบร้อยแล้ว เมื่อเดือน ก.พ. 55 ดังนั้น กทม. โดยสำนักงานเขต 50 เขต จะดำเนินการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันไดตกเบิกย้อนหลังเดือน ต.ค. 54 - มี.ค. 55 รวม 6 เดือน ภายในวันที่ 30 มี.ค. 55 ส่วนการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน เม.ย. 55 เป็นต้นไป จะสามารถจ่ายเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันไดได้ตามกำหนดวันที่ 10 ของทุกเดือน ณ สำนักงานเขตพื้นที่ ที่ได้ลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

แหล่งที่มา   เว็บไซต์สนุกดอทคอม 23 มี.ค. 55 14.33 น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...