วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

กรมน้ำบาดาลเล็งเจาะน้ำแร่ 3 แหล่งใหญ่แจกฟรี

กรมน้ำบาดาล เตรียมผลิตน้ำแร่ที่ได้สำรวจแล้วว่า มีผลดีต่อสุขภาพจาก 3 แหล่งใหญ่ "สุราษฎร์ธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด บรรจุลงขวดแจกฟรีวันละ 5 พันขวด เน้นเป้าหมายเป็นโรงเรียนในพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำแร่นั้นๆ เป็นหลัก... 

เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2555 นายปราณีต ร้อยบาง อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะสำรวจหาแหล่งน้ำของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้สำรวจพบแหล่งน้ำบาดาลที่มีคุณสมบัติเป็นน้ำแร่ ที่มีผลดีต่อสุขภาพ ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยแล้ว ตนได้สั่งการให้ส่งน้ำจากแหล่งบาดาลที่พบใน 3 จุด คือ
  1. ที่เกาะพะลวย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
  2. อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น และ
  3. ที่ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
ไปวิเคราะห์คุณสมบัติ ความเป็นน้ำแร่ และวิเคราะห์คุณภาพความปลอดภัยมาตรฐานน้ำดื่มที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์บริการกระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี และกรมทรัพยากรน้ำบาดาลวิเคราะห์เอง

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวอีกว่า เป็นที่น่ายินดีว่าน้ำบาดาลทั้ง 3 แห่ง มีคุณสมบัติเป็นน้ำแร่ ครบถ้วน ดื่มแล้วมีผลดีต่อสุขภาพ ช่วยเสริมแร่ธาตุบางอย่างที่น้ำดื่มทั่วไปไม่มี ทำให้ร่างกายสดชื่น และบำรุงผิวพรรณ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการผลิตน้ำแร่เป็นขวดเพื่อออกมาบริการประชาชนฟรี กลุ่มเป้าหมาย คือ โรงเรียนในพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำแร่นั้นๆ เป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ค่อนข้างจะขาดแคลนน้ำดื่มน้ำประปายังเข้าไม่ถึง คำนวณแล้วเราสามารถผลิตได้แหล่งละประมาณ 5,000 ขวดต่อวัน อาจจะมีการแจกจ่ายไปยังพื้นที่ข้างเคียงที่ขาดน้ำดื่มด้วย แต่พิเศษกว่าการแจกน้ำดื่มทั่วไป คือ เราแจกน้ำแร่ เพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย

นายปราณีต กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องการต่อยอดเพื่อให้บริษัทเอกชน มีสัมปทานแหล่งน้ำบาดาลน้ำแร่หรือไม่นั้น เบื้องต้นอยู่ระหว่างการหารือกับผู้ใหญ่ใน ทส.อยู่ แต่หลักการของกรมฯ คือ การหาแหล่งน้ำเพื่อบริการประชาชนพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำมากกว่าการหาผลกำไรเข้าองค์กร

“ขณะนี้หลายคนยังมีความเข้าใจผิดและรังเกียจน้ำบาดาล หากรู้ว่าเป็นน้ำบาดาลจะไม่กล้าดื่มทั้งที่ความจริงแล้วน้ำบรรจุขวดแทบทุกยี่ห้อที่วางขายในท้องตลาดเวลานี้คือน้ำบาดาลทั้งนั้น ซึ่งขั้นตอนการผลิตน้ำบาดาลก็จะไม่ต่างกันมาก แต่ส่วนใหญ่ก็ได้มาตฐานขององค์การอนามัยโลกทั้งสิ้น” อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าว

แหล่งที่มา   เว็บไซต์ไทยรัฐ

ดื่ม “น้ำแร่” ดีจริงหรือ? 
น้ำแร่จริงๆ แท้ๆ คือ น้ำที่ได้จากธรรมชาติ เช่น น้ำพุ น้ำใต้ดิน ผ่านการกรองโดยธรรมชาติมาแล้ว ซึ่งจะมีแร่ธาตุผสมอยู่ อย่าง แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม เกลือ(โซเดียม) และกำมะถัน เป็นส่วนผสมหลัก

เมื่อนำมาทำเป็นสินค้า หรือน้ำแร่บรรจุขวด ผู้ผลิตจะนำไปผ่านขั้นตอนการฆ่าเชื้อเพื่อความสะอาดและปลอดภัยก่อน โดยปัจจุบันมีน้ำแร่วางจำหน่ายแบ่งได้คร่าวๆ 3 ชนิด
  1. น้ำแร่ปรุงแต่ง ที่มีการเติมแร่ธาตุลงไปก่อนบรรจุขวด
  2. ชนิดต่อมา น้ำแร่ธรรมชาติจากน้ำพุร้อน มาจากน้ำพุใต้ดินที่พวยพุ่งขึ้นมา มักมีกำมะถันเจือปนรวมอยู่ และ
  3. น้ำแร่ธรรมชาติจากน้ำพุเย็น ได้มาจากน้ำฝนตามธรรมชาติไหลผ่านการกรองของชั้นดินและหินลึกลงไปใต้แผ่นดินราว 1,000 ฟุต
ในข้อดีของน้ำแร่ที่มีรสชาติต่างไปจากน้ำดื่มธรรมดา คือ เสริมระบบย่อยอาหาร ป้องกันฟันผุ ช่วยขับปัสสาวะ ลดกรดในกระเพาะอาหาร เสริมสร้างกระดูก ป้องกันโรคคอพอก รักษาสมดุลร่างกายในด้านความเป็นกรด-ด่าง รวมถึงสมดุลของน้ำในร่างกายด้วย

หากอยากได้ข้อดีจากน้ำแร่ก็ดื่มได้ไม่ต้องกังวล แต่
  • หากร่างกายป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับไต เพราะแร่ธาตุในน้ำแร่จะตกตะกอนรวมตัวแล้วกลายเป็นนิ่วได้
  • ยังรวมถึงคนไข้โรคหัวใจ ควรเลี่ยงดื่ม เนื่องจากธาตุโพแทสเซียม ส่งผลต่อการเต้นของหัวใจ
  • เช่นเดียวกับคนวัยทองที่รู้ตัวว่ามีปัญหาความดันโลหิตทำให้สูงขึ้นได้
  • คุณแม่ตั้งครรภ์เสี่ยงจะจุกเสียดท้องและโลหะหนักมีผลต่อทารก
  • บ้านไหนให้เด็กๆ เน้นดื่มน้ำแร่นานวันเข้าฟันขาวๆ จะปรากฏจุดด่างดำ เพราะฟลูออไรด์นั่นเอง
คงไม่ฟันธงชี้ชัดว่า น้ำแร่ดื่มดีหรือไม่ แต่จากข้อดีและข้อเสียเฉพาะบุคคลที่นำเสนอไป คงเป็นหน้าที่ของผู้อ่านแล้วล่ะ ว่าน้ำแร่จำเป็นต่อการเสริมสุขภาพของคุณหรือไม่?

แหล่งที่มา    เว็บไซต์หมูตอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...