
- วันนี้ ราคาหน่วยลงทุนน่าจะต่ำที่สุดแล้ว “ลงทุนเลย” ปรากฏว่าเวลาผ่านไปราคากลับลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้รู้สึกว่า “ไม่น่าลงทุนวันนั้นเลย น่าจะรอลงทุนวันนี้ดีกว่า”
- แต่ถ้าในทางกลับกัน ราคากลับสูงขึ้นแล้วเราไม่ได้ลงทุนเมื่อวันที่ราคาหน่วยลงทุนถูก เราก็จะต้องลงทุนในราคาที่แพงกว่าเป็นต้น
จึงเป็นที่มาของสไตล์การลงทุนที่เรียกว่า “ใช้เงินน้อย ทยอยออม ด้วยกองทุนรวม” แถมยังสามารถใช้เงินก้อนเล็ก ในการลงทุนได้อีกด้วย
เริ่มต้นอย่างไร

- กำหนดจำนวนเงินที่จะลงทุนในแต่ละเดือน เช่นตั้งใจลงทุนปีนี้ที่ 60,000 บาท ให้เฉลี่ยนเป็นเดือนละ 5,000 บาท
- เลือกลงทุนในกองทุนที่ต้องการ โดยพิจารณาจากพฤติกรรมของคุณว่ายอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยเพียงใด และเหมาะสมกับกองทุนรวมประเภทใด โดยสามารถศึกษาข้อมูลกองทุนรวมทุกประเภทได้ที่ www.thaimutualfund.com
- ติดต่อ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เพื่อขอนโยบายการลงทุนตามประเภทกองทุนที่คุณสนใจ
- กำหนดช่วงเวลาที่แน่นอน (รายสัปดาห์ รายเดือน) โดยใช้ระบบตัดเงินอัตโนมัติเพื่อความ สะดวกในการดำเนินการ
- ต้องเป็นการลงทุนในระยะยาว เช่น 5 ปี ขึ้นไป เช่น กองทุนหุ้นระยะยาว LTF และ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ RMF แถมยังได้สิทธิ์ในการลดหย่อยภาษีอีกด้วย
- สำรวจตัวคุณเองว่ามีความสามารถในการลงทุนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอหรือไม่
- กำหนดช่วงเวลาที่แน่นอน เช่น ทุกวันที่ 1 ของเดือน หรือ ทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ เป็นต้น
- กำหนดวงเงินให้เท่าๆ กันในแต่ละงวด โดยพิจารณาจากวงเงินที่สามารถลงทุนได้ในแต่ละปี
- ต้องมีวินัยและไม่หวั่นไหวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะการที่เกิดขึ้นในตลาดทุน
ประโยชน์
- ใช้เงินน้อย สำหรับการลงทุนในกองทุนรวม ในแต่ละเดือน
- ลดความเสี่ยงของการผันผวนของราคาตลาด สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนด้วยเงินก้อนเดียว
- เสริมสร้างวินัยในการออมและการลงทุน ให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้
- ไม่ต้องเสียเวลาติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด
- กระจายความเสี่ยงด้วยการเฉลี่ยต้นทุน (Dollar Cost Averaging (DCA)
- ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์การลงทุนในตลาดทุน
ตัวอย่างการลงทุน
ตัวอย่างนี้จะยกกองทุนรวม 1 ตัวในตลาดทุนมานำเสนอ เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้น ที่ให้ผลตอบแทนที่สูง เช่น กองทุนหุ้น กองทุนหุ้นระยะยาว LTF หรือ กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ RMF ที่ลงทุนในหุ้น ซึ่งสามารถช่วยตอบคำถามในเรื่องช่วงเวลาไหนที่ไม่มีความแนะนอน ลองดูว่าวิธีลงทุนแบบเฉลี่ยรายเดือนในรอบ 1 ปี ผลจะออกมาอย่างไรเมื่อเทียบกับการลงทุนปีละครั้ง
โจทย์
- มีเงินต้นสำหรับลงทุนปีละ 60,000 บาท นำไปซื้อกองทุนเปรียบเทียบตามช่วงเวลา
- ลงทุนครั้งละ 5,000 บาท ทุกวันที่ 1 ของเดือน
- ลงทุนครั้งเดียวต้นปี (Lump Sum)
- ลงทุนครั้งเดียวปลายปี (Lump Sum)
- เริ่ม 1 มกราคม xxxx ถึง 31 ธันวาคม xxxx (กรณีตรงกับวันหยุดจะเลือนเป็นวันทำการถัดไป)
- ขายคืนกองทุนหมดครั้งเดียว โดยใช้ราคาขายคืนในวันที่ 31 ธันวาคม xxxx
จะเห็นได้ว่าหากลงทุนครั้งเดียวที่ต้นปีจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุน 17,225.41 บาท คิดเป็น 28.71 % แต่ถ้าเปลี่ยนมาลงทุนปลายปีจะกลับกลายเป็นขาดทุน 3,134.88 บาท คิดเป็น - 5.22 % เหตุการณ์เช่นนี้จะช่วยให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในเรื่องของช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลงทุนที่ไม่สามารถตอบได้แน่นอนว่าช่วงใดเหมาะสมที่สุด ซึ่งตัวเลขที่ยกตัวอย่างมาก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะเป็นอย่างนี้เสนอไป แต่ถ้าเป็นการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยรายเดือน ก็จะเป็นการลดความเสี่ยงในเรื่องของการผันผวนของราคาได้ ซึ่งผลตอบแทนจากตัวอย่างข้างต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 10.32 % แต่ในทางกลับกันหากขาดทุน ก็จะขาดทุนแบบเฉลี่ยเช่นกัน
Saving Plan
การออมเงินให้ได้ 1,000,000 บาท ไม่ใช่เรื่องยาก ทุกคนก็สามารถทำได้เพียงแค่มีวินัยในการออมและบริหารเงิน โดยการออมก็มีหลายรูปแบบ เช่นการเก็บเป็นเงินสด การฝากเงินกับสถาบันการเงิน การซื้อกองทุนรวม หรือการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างๆ ระยะเวลาและอัตราผลตอบแทนจะเป็นตัวบอกว่าต้องเก็บเงินนานเท่าไหร่ ซึ่งหากเราเริ่มสะสมการออมและการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เป้าหมายทางการเงินที่วางไว้ก็ไม่ไกลอีกต่อไป
แหล่งที่มา เว็บไซต์ให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น