วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ออมเงินให้เป็น เคล็ด (ไม่) ลับ เหลือเงินไว้เหลือเก็บ


การเก็บเงินว่ากันว่า ยากตรงตอนเริ่มต้นเพราะต้องหักห้ามใจตัวเองไม่ให้ใจอ่อนกับสิ่งของที่เย้ายวนชวนให้ซื้อ และยากขึ้นไปอีกเมื่อต้องจูงใจตัวเองให้เก็บอย่างต่อเนื่อง การออมถือเป็นเรื่องที่ต้องมีวินัยอย่างมาก ซึ่งถ้าทำได้ก็จะเป็นผลดีอย่างมาก

นายศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า สิ่งที่คนเรามักละเลยในการเก็บออมเงินคือ การผัดวันประกันพรุ่ง คนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่ามีหนี้สินหรือภาระหน้าที่การงานมากมายที่ต้องรับผิดชอบ หรือคนที่เพิ่งเริ่มทำงานจะรู้สึกว่ารายได้ยังไม่มากพอที่จะเก็บออมเงิน ควรเริ่มเก็บออมอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่วันนี้ และไม่ว่าจะอายุเท่าไร รายได้เท่าไร สิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอของการเก็บออมเงิน และให้ดูความเหมาะสมของจำนวนเงินฝากในแต่ละเดือน และผลตอบแทนที่ได้รับ


การออมเงินฝากเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยมีข้อดีที่สภาพคล่องสูง ความเสี่ยงต่ำ สามารถเป็นแหล่งเงินยามฉุกเฉินได้ดี โดยต้องเลือกดูประเภทเงินฝากว่าแบบไหนถึงจะเหมาะกับเรา ซึ่งถ้าเป็นฝากเพื่อความสะดวก ฝากง่าย ถอนคล่อง ควรเลือกเป็นเงินฝากออมทรัพย์ ที่สำคัญดอกเบี้ยไม่โดนหักภาษี ซึ่งข้อควรรู้คือ

  • ดอกเบี้ยเงินฝากประเภทออมทรัพย์ ถ้าไม่เกิน 2 หมื่นบาท จะได้รับการยกเว้นภาษี แต่หากเกิน 2 หมื่นบาท จะเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% 
  • ส่วนเงินฝากเพื่อผลตอบแทนที่สูงขึ้น คือ เงินฝากประจำ ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ แต่เป็นการฝากที่มีระยะเวลาตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร ซึ่งปัจจุบันมีเงินฝากประจำที่ให้ดอกเบี้ยที่น่าสนใจ เช่น จะได้รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือน หรือหากมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินก่อนครบกำหนดก็สามารถเบิกถอนเงินมาใช้ก่อนได้ โดยจะยังคงได้รับอัตราดอกเบี้ยตามที่ธนาคารกำหนด คำนวณตามระยะเวลาที่ฝากไว้จริง เป็นต้น”


  1. นอกจากนี้ต้องสำรวจดูความสามารถในการออมเงินของตนเอง ก่อนอื่นต้องดูว่ารายรับทั้งปีของเรารวมทั้งเงินเดือน เงินโบนัส และรายได้พิเศษอื่นๆ ต่อปี รวมแล้วเป็นเท่าไร ในแต่ละเดือนเรามีค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าที่พักอาศัย ค่าสาธารณูปโภค ฯลฯ เท่าไร การทบทวนรายรับ-รายจ่าย ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่จะช่วยให้เรารู้ว่าควรปรับลดค่าใช้จ่ายในส่วนใด เพื่อนำไปเพิ่มในส่วนของเงินออม
  2. อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือควรตั้งกรอบเวลาของเป้าหมายทางการเงิน เมื่อได้เป้าหมายของการออมเงินแล้ว การตั้งกรอบเวลาจะช่วยให้เราเลือกรูปแบบการออมเงิน และผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยที่โดนใจเราได้ 
  3. สุดท้ายคือเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทน รวมถึงสิทธิประโยชน์ในการเป็นตัวช่วยประหยัดภาษี ยุคนี้เป็นยุคทองของผู้รักการออม จะเห็นได้ว่าธนาคารพาณิชย์ต่างชูรูปแบบเงินฝากระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว รวมถึงการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ที่มีอัตราผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยที่เร้าใจผู้บริโภคออกมามากมายในตลาด รวมถึงสิทธิประโยชน์เสริมอื่นๆ 

แค่เพียงเริ่มต้นออมตั้งแต่วันนี้อย่างจริงจัง คุณก็จะมีเงินก้อนไว้ใช้จ่ายให้ชีวิตสุขได้อย่างที่ฝัน

แหล่งที่มา      เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์  14 กรกฎาคม 2555, 15:00 น. 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...