เมื่อมั่งมี มากมาย มิตรหมายมอง เมื่อหม่นหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา เมื่อไม่มี มวลมิตร ไม่มองมา เมื่อมอดม้วย หมูหมา ไม่มามอง... |
|
ยามบุญมา กาไก่ กลายเป็นหงส์ ยามบุญลง หงส์เป็นกา น่าฉงน ยามบุญสูง หมูหมา ว่าเป็นคน ยามบุญหล่น คนเป็นหมา น่าอัศจรรย์... |
|
ยามบุญมี ผีผอมตอมกันแดก ยามโลงแตก ผีอ้วน ชวนกันหนี มึงมีมั่ง กูมีมั่ง ก็ยังดี ยามมึงมี มึงแอบแดก กูแปลกใจ... |
|
ยามมีดี ผีหมา งูกาไก่ โถมเข้าใส่ ลูบตีน แล้วปีนหัว ขึ้นเหยียบบ่า แหงนมองฟ้า กันทุกตัว พอขึ้นหัว เหยียบบ่า ข้าเก่งเอง... |
|
แต่แรกเชื่อ ว่าเนื้อทับทิมแท้ มาแปรเป็น พลอยหุง ไปเสียได้ กาลวงว่าหงส์ ก็ปลงใจ ด้วยมิได้ ดูหงอน แต่ก่อนมา... |
|
หงส์.... แม้ตกลงบ่วงบาศก์ ก็อาจหาญ แม้ตกยากจากถ้ำ เคยสำราญ หงส์กับห่าน ก็ยังแผก แตกต่างกัน... |
|
รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย ถ้ารวมกันแล้วเลวร้าย ก็แยกกันตาย เสียดีกว่าอยู่ รวมกันละก็เป็นแหลก แตกกันละก็เป็นดี |
|
แล้วสอนว่า อย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งน้ำใจคน |
แหล่งที่มา เว็บไซต์ OkNation โดย duke-dik กันยายน 2551
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
ตอบลบ