สถาบันรามจิตติ รายงานสภาวการณ์เด็กและเยาวชนไทย ซึ่งเป็นการสำรวจที่สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. โดยการสำรวจนี้ ทำในช่วงเดือนมกราคม ถึงกุมภาพันธ์ 2555 จากกลุ่มตัวอย่าง 20,000 คน ใน 4 ช่วงอายุ ใน 20 จังหวัดทั่วประเทศ
โดยพบว่า เยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายรับประทานอาหารเช้าเป็นประจำ เพียงร้อยละ 50 เมื่อขึ้นไปถึงระดับอุดมศึกษา ลดลงเหลือ ร้อยละ 37 นอกจากนี้ ยังพบว่า 1 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่าง มีค่านิยมเรื่องสวยผอม และมีความคิดที่จะใช้ยาลดความอ้วน และทำศัลยกรรม
ส่วนภาวะเครียด พบว่าเด็กในระดับมัธยมศึกษาถึงอุดมศึกษาประมาณ 1 ล้านคน มีอาการซึมเศร้าและหงุดหงิดไม่รู้สาเหตุ และเกือบร้อยละ 50 เคยมีอาการเครียดจนปวดท้องหรืออาเจียน
ขณะที่ด้านการมีเพศสัมพันธ์ พบว่า มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากร้อยละ 24 ในปี 2551 เป็นร้อยละ 35 ในปี 2554 และมีเด็กถึงร้อยละ 27 ที่มีเพื่อนสนิทเคยตั้งท้องหรือเคยทำแท้ง และมีเด็กไทยถึง 1 ใน 4 รู้สึกว่าการมีกิ๊กหรือมีแฟนหลายคนพร้อมกันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ และมีเพียงร้อยละ 53 เท่านั้นที่รู้ถึงข้อจำกัดและความเสี่ยงในการใช้ถุงยางอนามัย และร้อยละ 57 ที่ยอมรับการพกถุงยางอนามัยติดตัว
ด้านประเด็นความรุนแรงนั้น เด็กระดับมัธยมศึกษาถึงระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศกว่า 7 ล้านคน มีเด็กและเยาวชนกว่า 7 แสนถึง 1 ล้านคน ตกอยู่ในภาวะความรุนแรงในโรงเรียน เช่น ถูกขู่กรรโชกทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย และการทะเลาะวิวาทกับเพื่อนนักเรียน โดยร้อยละ 33 พบเห็นการพกพาอาวุธร้ายแรงเข้ามาในสถานศึกษาซึ่งเป็นอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว
นอกจากนี้ สื่อต่างๆ ยังมีอิทธิพลต่อเด็กไทยเป็นอย่างมาก โดยพบว่า เด็กไทยดูโทรทัศน์ คุยโทรศัพท์ เล่นอินเตอร์เน็ตรวมกันกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน โดยมากกว่าร้อยละ 50 ชอบดูละครโทรทัศน์
แหล่งที่มา เว็บไซต์สนุกดอทคอม by Watsana 16 ก.ค. 55 07.44 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น