ในยุคสมัยแห่งความรีบเร่ง อาหารการกินส่วนใหญ่จึงกลายเป็นเรื่องของความง่าย อะไรก็ได้ขอให้ง่าย ขอให้เร็วเข้าไว้ ซึ่งวิธีคิดเช่นนี้ก็ทำให้สุขภาพร่างกายของคนเสื่อมถอยเร็วยิ่งขึ้น แต่ทว่าสวรรค์ก็ยังมีตา ประทานของดีๆ อย่างอาหารเสริมมาเป็นตัวช่วย ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเริ่มกินสารพัดอาหารเสริมที่ขายเกลื่อนล้นตลาด ซึ่งมีทั้งในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เติมสารอาหาร ลองมาศึกษาดูสักนิดว่า ของเหล่านี้ดีอย่างไร และมีผลข้างเคียงอันใดบ้างหรือไม่
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคืออะไร
คณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.) ให้ความหมาย "ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร" ไว้ว่าเป็น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้รับประทานโดยตรง นอกเหนือจากการรับประทานอาหารหลักตามปกติ ซึ่งมักอยู่ในรูปลักษณะเป็นเม็ด แคปซูล ผง ของเหลว หรือลักษณะอื่นและมีจุดมุ่งหมายสำหรับบุคคลทั่วไปที่มีสุขภาพปกติ ไม่ใช่สำหรับผู้ป่วย หากผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวจะต้องเป็นของเหลวที่บริโภคโดยไม่มุ่งหมายเพื่อให้มีรสชาติ บริโภคในลักษณะต่างจากเครื่องดื่มทั่วไป หรือเป็นของเหลวข้นสำหรับหยดใส่ผักหรือน้ำผลไม้ เพื่อมุ่งหมายในการให้สารบางอย่าง
ผลิตภัณฑ์เติมสารอาหารมีความจำเป็นหรือไม่
การบริโภคในชีวิตประจำวัน หากเราให้ความใส่ใจและสนใจในพฤติกรรมการบริโภค ทานให้ครบ 5 หมู่ ทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลายแล้ว เราก็สามารถได้รับสารอาหารได้อย่างเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริม แต่เนื่องจากปัจจุบัน การใช้ชีวิตที่รีบเร่ง การแข่งขันสูง ทำคนอาจไม่มีเวลาใส่ใจในการเลือกซื้ออาหารมารับประทานได้ครบ และกระแสที่เดี๋ยวนี้ เน้นให้คนหันมาสนใจการดูแลสุขภาพ ดังนั้นจึงอาจใช้วิธีหาซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมาทานเพิ่มเป็นทางเลือกข้อควรระวัง
- ควรอ่านฉลากผลิตภัณฑ์ รับประทานในปริมาณที่แนะนำ อ่านคำเตือนและปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอยู่นะระหว่างการรักษาด้วยยาหรือการรักษาด้วยภาวะทางอายุรกรรมที่เฉพาะเจาะจง
- หลีกเลี่ยงการเสริมอาหารกลายชนิดในเวลาเดียวกัน เพื่อป้องกันหรือลดความเสี่ยงของผลกระทบระหว่างอาหารเสริมด้วยกัน
- ไม่ควรใช้อาหารเสริมเป็นทางเลือก แทนการรับประทานอาหารปกติ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง
- ทั้งนี้ การจะเลือกทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนั้น ควรศึกษาว่าร่างกายขาดสารอาหารตัวใด เช่น ในบางคนไม่สามารถดื่มนมได้หรือไม่ชอบดื่มดื่มได้ปริมาณน้อย สามารถหาทานได้จากปลาขนาดเล็กและผักใบเขียว และอาจหาแคลเซียมเสริมการทานเพิ่มได้ โดยการเลือกซื้อควรพิจารณาจากแหล่งผลิต ว่าได้มาตรฐานหรือไม่ มีข้อบ่งชี้แนะนำการทานละเอียดครบถ้วน ระบุวันเดือนปีที่ผลิต และหมดอายุ เป็นต้น
- ผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด จะระบุปริมาณที่ควรบริโภคต่อวันไว้ที่ข้างผลิตภัณฑ์ ก่อนทานควรอ่านเพื่อทำความเข้าใจและปฏิบัติตามคำแนะนำที่ระบุไว้ เพราะสารอาหารบางชนิดถ้าทานมากเกินไปหรือต่อเนื่องจะสะสมไว้ในร่างกายก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายได้ด้วยเช่นเดียวกัน
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารส่วนใหญ่มักระบุสรรพคุณไว้มากมาย เช่น รักษาได้หลายโรค ซึ่งในความเป็นจริงแล้วผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเหล่านี้ ทำหน้าที่เพียงแค่ทดแทนสารอาหารที่เราขาดไปเท่านั้น ซึ่งเมื่อเราทานผลิตภัณฑ์เข้าไปก็จะช่วยให้ร่างกายกลับมาทำงานในส่วนที่ขาดไปได้ตามปกติ แต่ไม่สามารถช่วยรักษาโรคได้ แต่ปัจจุบัน ผู้ขายมักเข้าหาผู้ซื้อโดยตรง และมักอ้างอิงถึงสรรพคุณต่างๆ โน้มน้าวให้ผู้ซื้อหลงเชื่อว่าเป็นไปตามนั้น
- ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้สะดวก ไม่มีแพทย์มาอนุมัติหรือเขียนใบสั่งยา ทำให้ผู้ป่วยบางคนที่เป็นโรค เมื่อถูกโน้มน้าวฟังสรรพคุณจากผู้ขาย ก็จะตกลงซื้อโดยคาดหวังผลที่มีการกล่าวอ้างเกินจริง
- ผู้ซื้อบางคนคิดว่า การทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปริมาณมากทำได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีอาการแพ้ หรือผลข้างเคียง เพราะมีการระไว้ว่าเป็น "สารอาหาร" แต่ผู้ซื้ออาจลืมนึกว่าสารอาหารบางอย่างการทานมากไป น้อยไป หรือการทานต่อเนื่องติดต่อกัน ก็อาจเกิดโทษต่อร่างกายได้
- ผู้ซื้อส่วนใหญ่มักหลงเชื่อและคิดว่า มีคนใช้แล้วได้ผลดีมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลดน้ำหนัก หรือการรักษาโรค ทำให้อยากซื้อมาทานดูบ้าง ทั้งที่จริงๆ แล้วควรตรวจสอบจากผลการวิจัยและสถิติที่น่าเชื่อถือ ก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์
แหล่งที่มา เว็บไซต์กระปุกดอทคอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น