กสทช. มีคำสั่งเพิกถอนใบรับรองโทรคมนาคม-อุปกรณ์ 280 รุ่นจาก 27 บริษัท หลังพบยื่นเอกสารผลทดสอบเท็จ
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า กสทช. ได้มีคำสั่งทางปกครองเพิกถอนใบรับรองเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ จำนวน 280 รุ่น ที่ไม่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจากประเทศจีน ส่งผลให้มีโทรศัพท์มือถือหลายรุ่นที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย คือ อาม่า และ อาม่า พลัส เจโฟน ของ บริษัท เจมาร์ท และโฟนวันของ ทีดับบลิวแซด
ทั้งนี้ สาเหตุของการเพิกถอนใบอนุญาตนำเข้านั้น เนื่องจากกสทช. ตรวจพบการใช้รายงานผลการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการทดสอบของต่างประเทศ ที่ไม่ได้ออกโดยห้องปฏิบัติการทดสอบของต่างประเทศ รวมทั้งการปลอมแปลง หรือ แก้ไข เปลี่ยนแปลง ลดทอน แต่งเติมเนื้อหาข้อมูลในรายงานผลการทดสอบให้ผิดแผกจากต้นฉบับ
สำหรับว่า คำสั่งครั้งนี้มีผลบังคับต่อผู้ประกอบการที่เข้าข่ายรวม 27 ราย ที่สามารถใช้สิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. ได้ภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งคำสั่งทางปกครอง รวมทั้งต้องดำเนินการใน 2 ทางเลือก คือ
- ยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้นำออกเครื่องวิทยุคมนาคมตามกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคมภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประกาศสำนักงาน กสทช.ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ และนำเครื่องโทรคมนาคมดังกล่าวออกนอกราชอาณาจักร และ
- ทำลายเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ดังกล่าวภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประกาศสำนักงาน กสทช. มีผลบังคับใช้
อย่างไรก็ตามการเพิกถอนใบอนุญาต ครั้งนี้ คือ ไม่สามารถนำมือถือรุ่นดังกล่าวเข้ามาจำหน่ายได้อีก แต่ไม่เกี่ยวกับคุณภาพของโทรศัพท์มือถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานหรือไม่ และยังคงสามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่หากผู้ใช้พบปัญหาหรือได้รับผลกระทบจากการใช้งานให้ดำเนินการร้องเรียนกับทางองค์กรผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช. ได้โดยตรง
นายสุรินทร์ อมรชัชวาลกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีเดีย อินฟินิตี้ กล่าวว่า ตามคำสั่งทางปกครองดังกล่าว มีโทรศัพท์มือถือรุ่น “อาม่า” และ “อาม่าพลัส” ที่เข้าข่ายมีทั้งหมด 13 รุ่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรุ่นที่จำหน่ายแล้วในช่วง 2-3 ปี โดยการนำเข้าจากประเทศจีนเป็นการนำเอกสารจากรับรองคู่ค้า จึงไม่ทราบว่า เอกสารดังกล่าว หรือการตรวจสอบจากห้องแลบเป็นเอกสารปลอม
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า โทรศัพท์มือถือรุ่นอาม่าและอาม่าพลัส ไม่ได้มีปัญหาเรื่องคุณภาพสินค้า เพราะสินค้ามีการรับประกัน 1 ปี และที่ผ่านมามีสินค้าที่ส่งซ่อมหรือส่งคืนจากคุณภาพสินค้ามีจำนวน 1% จากที่จำหน่ายทั้งหมด และได้เรียกคืนสินค้าในรุ่นที่ถูกประกาศแล้ว โดยยินดีที่จะรับผิดชอบหากสินค้ามีปัญหาการใช้งาน
“ขณะนี้บริษัทส่งสินค้าทุกรุ่นไปตรวจสอบยังห้องปฏิบัติการทดสอบให้ถูกต้องแล้ว หากสามารถชี้แจงหรืออุทธรณ์ต่อสำนักงาน กสทช. ได้ ทางบริษัทก็จะขอชี้แจง ส่วนโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ “ซูเปอร์อาม่า” ก็ผ่านการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการทดสอบและสำนักงาน กสทช.แล้ว ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด” นายสุรินทร์กล่าว
ปัจจุบันมีปริมาณการนำเข้าโทรศัพท์มือถือเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยเฉลี่ยปีละ 16 ล้านเครื่อง โดยผู้ประกอบการที่เหลืออีก 24 ราย คือ บริษัท 108 มาร์เก็ตติ้ง บริษัท เบสคิงส์ บริษัท โมเดิร์น เทคโนโลยี โมบาย บริษัท โมบาย อาร์ อัส บริษัท สไมล์ โฟน (ประเทศไทย) บริษัท ออลเทค มาเก็ตติ้ง นายอริยะ บุพศิริ บริษัท คูล คอมพิวเตอร์ (ไทยแลนด์) บริษัท เจเจเค.คอร์ปอเรชั่น บริษัท ชาเทอเว คอร์พอเรชั่น (ประเทศไทย) บริษัท ซันไรซ์ อินเตอร์เทรด บริษัท ดี โมบาย (ประเทศไทย)
บริษัท ที.ซี. โมบาย โฟน บริษัท ไทยเวย์ อินฟอร์เมชั่น คอมพิวเตอร์ บริษัท นีโอลูชั่น เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น บริษัท พี.ที.อี. อินเตอร์กรุ๊ป บริษัท มาสเตอร์ เทคโนคอม บริษัท แม๊ค คอลเลคชั่น บริษัท ไมโครเทเลคอม บริษัท ลอง เชียร์ คอมมิวนิเคชั่น บริษัท เอ. โมบายล์ บริษัท เอเอซี แอนด์ ที บริษัท แอล บี แอล (2004) และบริษัท ไอโอเทค เทคโนโลยี
สำหรับรายชื่อรุ่นโทรศัพท์มือถือ 280 รุ่นที่ กสทช.มีคำสั่งเพิกถอนใบรับรองมีดังนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น