วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เรื่องเสียดายของคนทำงาน

วันเวลาในชีวิตผ่านไปอย่างรวดเร็ว มีเรื่องมากมายในชีวิตที่คิดเอาไว้ว่าจะทำแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ จนถึง วันนี้ ก็ได้แต่นึกเสียใจ จะย้อนเวลากลับไปเพื่อทำก็ไม่ได้

วันนี้มีบทเรียนจากมนุษย์เงินเดือนมาฝาก ว่าตลอดชีวิตการทำงานของพวกเขามีอะไรที่ "พลาด" และอยากกลับไปแก้ไขบ้าง

ไม่ตั้งใจทำงานในช่วงแรก เมื่อทำงานใหม่ๆ หลายคนยังโหยหาชีวิตวัยเรียน (ที่สบายกว่ากันมาก) จึงดื่ม เที่ยว กิน ช๊อปปิ้งเป็นปกติ ไม่ค่อยเอาใจใส่กับการทำงาน เพราะบอกตัวเองว่ายังเด็กอยู่ ค่อยๆ เรียนรู้ไป รู้สึกตัวอีกที จากจูเนียร์ก้าวเป็นซีเนียร์ก็ไม่ได้อะไรสักอย่างกลับไป จงใส่ใจและขยันทำงาน ยินดีที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามา ทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำ

ไม่ได้เรียนต่อ มีเหตุผลสารพัดที่ทำให้เราไม่ได้เรียนต่อ เช่น ขอเก็บเงินให้ได้ก่อน รอทำงานให้เข้าที่ หรือรอดูว่าตัวเองขาดอะไร แล้วค่อยออกไปเรียนต่อในสาขานั้นๆ แต่ล่วงเลยมาหลายปีก็ยังไม่ได้เรียนสักที จนหลายครั้งที่พลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตอย่างน่าเสียดาย

ไม่ได้เรียนภาษาต่างประเทศ ภาษาที่สองและสาม กลายเป็นปัจจัยหลักที่อาจทำให้คุณได้งานหรือไม่ได้งาน หลายคนเสียดายที่ไม่ได้เรียนรู้ภาษาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นวัยรุ่น ถึงตอนนี้จะให้มาเรียนก็รู้สึกว่าแก่เกินไป แถมยังมีภาระหลายอย่างให้ดูแล จนแทบไม่มีเวลาไปร่ำเรียน

ไม่ได้วางแผน มนุษย์เงินเดือนบางคนทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม เรื่อยเปื่อย ไม่ตั้งเป้าหมาย ไม่สนว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร หากตอนนี้ย้อนกลับไปได้ พวกเขาขอเลือกที่จะวางแผนชีวิตตั้งแต่เริ่มทำงานว่า แต่ละวัน แต่ละเดือน ควรทำอะไร หรือระยะยาว อย่างอีก 2 ปีข้างหน้าชีวิตจะเป็นอย่างไร ตั้งเป้าหมายเอาไว้และเดินไปให้ถึง

แต่งงานเร็ว หลายคนลืมคิดว่าจากวัยเรียนมาวัยทำงานเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ ต้องปรับตัวรับความรับผิดชอบใหม่ๆ เมื่อแต่งงานก็มีปัญหาประจำของการใช้ชีวิตคู่เข้ามาด้วย กลายเป็นว่าต้องรับปัญหา 2 ทาง หนำซ้ำแทนที่เราจะก้าวหน้าไปกับการทำงานได้อย่างคล่องตัว กลับมีสัมภาระหลายใบคอยรั้งเราเอาไว้ ดังนั้น หากย้อนเวลากลับไปได้ หลายคนเลือกที่จะทำงานก่อนสักระยะ สั่งสมประสบการณ์ เก็บเงินให้มากพอ แล้วค่อยมองไปถึงเรื่องแต่งงาน

สนใจคนรอบตัวเกินไป หลายครั้งที่แม้จะถูกใจงานที่ทำมากแค่ไหน แต่ก็มีเพื่อนร่วมงานที่คอยทำให้เรารู้สึกหน่ายใจทุกที หลายคนเก็บเรื่องราวมาเครียด คิดมากจนไม่มีแก่ใจจะทำงาน จนถึงวันนี้ก็ได้แต่เสียดายที่ในวันนั้นน่าจะสนใจและพัฒนางานให้มากกว่านี้ เพราะรู้แล้วสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือ งาน ไม่ใช่คน

มัวแต่เปลี่ยนงาน ข้อดีของการย้ายงานคือ ตอบสนองความต้องการข้อใดข้อหนึ่งของเรา ไม่ว่าจะเป็น เงินเดือนที่สูงขึ้น งานใหม่ท้าทายกว่า เดินทางสะดวก เป็นต้น แต่การที่อยู่ในแต่ละที่เป็นเวลาสั้นๆ ทำให้หลายคนเสียดายที่มีประสบการณ์ในแต่ละที่น้อยเกินไป ยังไม่ทันได้เรียนรู้การทำงานเลย

เสียดายที่ไม่เปลี่ยนงาน บางคนก็อยู่กับที่ใดที่หนึ่งนานเกินไปถึงเวลาจะย้ายงานก็ทำได้ยาก เพราะอายุเยอะจะย้ายไปตำแหน่งที่สูงก็ไม่มีคนรับ จะไปสมัครในตำแหน่งเดิมก็แก่กว่าคนอื่น หากย้อนเวลากลับไปได้เขาขอเลือกที่จะเปลี่ยนงานในจังหวะเหมาะสมที่โอกาสเดินเข้ามาหา โดยไม่ยึดติดอยู่กับองค์กร สภาพแวดล้อม และความสบายแบบเดิมๆ

เป็นความจริงที่ว่า บทเรียนที่ดีที่สุดของชีวิต คือประสบการณ์โดยตรงของตัวเอง แต่การได้เรียนรู้จากผู้อื่นก็เหมือนได้อ่านตำราชั้นเยี่ยม ช่วยเตือนใจไม่ให้เหยียบซ้ำรอยเดิม เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องรู้สึก "เสียดาย" อีก

แหล่งที่มา นสพ. M2F วันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย. 54 (032)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...