ความเชื่อที่ 1 "วิตามินซีช่วยต้านหวัด"
ไม่จริง เพราะวิตามินซีไม่ใช่สารอาหารเสริมเพื่อต้านหวัด แต่ปัจจัยหลักคือ พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ จากผลการวิจัยของออสเตรเลียพบว่า กลุ่มคนที่บริโภควิตามินซีเป็นประจำยังคงมีอาการหวัดและความอ่อนเพลียอื่น ๆ ซึ่งไม่ต่างจากกลุ่มคนที่ไม่เคยบริโภควิตามินซีเลย และมีเพียงวิธีเดียวที่จะช่วยให้อาสาสมัครทั้งสองกลุ่มหายจากหวัดคือ การล้างมือก่อนการรับประทานอาหารทุกครั้ง
ความเชื่อที่ 2 "การเป่ามือให้แห้ง ช่วยให้มือสะอาด กว่าการเช็ดด้วยกระดาษชำระ"
ไม่จริง เพราะเครื่องเป่ามือที่อยู่ในห้องน้ำสาธารณะเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นดี ซึ่งลมร้อนที่ถูกกักเก็บไว้ในตัวเครื่องเมื่อพ่นออกมานั้น มันจะดูดแบคทีเรียจากอากาศแวดล้อมกลับเข้าไปในตัวเครื่องด้วย แม้ว่าเราจะไม่ได้เอามือจ่อชิดกับตัวเครื่องก็ตาม แต่เชื้อโรคก็ยังแพร่กระจายมาสู่มือเราได้ในระยะที่ไกลถึง 1.8 เมตร ดังนั้นหลังล้างมือเสร็จแล้วควรเช็ดให้แห้งด้วยกระดาษชำระ มือเราจะสะอาดมากกว่า
จริง เพราะในนมมีกรดอะมิโนทริปโตเฟน (1 ใน 8 กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย) ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอน แต่เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองเรื่องนมที่มีผลต่ออาการง่วงนอน ผลออกมาพบว่าทริปโตเฟนมีฤทธิ์ต่ออาการง่วงนอนในระดับต่ำมาก แต่สิ่งที่ทำให้ร่างกายหลับสบายเมื่อดื่มนมอุ่น ๆ ก่อนนอนนั้นคือแลคเทียม (Lactium) หรือโปรตีนที่ได้จากการย่อยสลายของนม แลคเทียมจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย จึงส่งผลให้นอนหลับสบายขึ้นนั่นเอง
ความเชื่อที่ 4 "น้ำมูกมีสีเขียวเป็นเพราะร่างกายติดเชื้อ ควรกินยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อ"
ไม่จริง เพราะเมื่อร่างกายได้รับเชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย หรือไวรัส กลไกในร่างกาย จะผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวออกมาเพื่อดักจับเชื้อโรคไว้ในทันที และจะระบายออกมาในรูปของน้ำมูก หากมีเชื้อแบคทีเรียปนออกมาด้วย น้ำมูกจะเป็นสีเขียว ดังนั้นแล้วหากร่างกายสามารถยับยั้งเชื้อโรคได้เองอยู่แล้วจึงไม่จึงเป็นต้องกินยาปฏิชีวนะเข้าไปเสริมอีก เพราะร่างกายอาจติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้หากร่างกายดื้อยา
ความเชื่อที่ 5 "เหงื่อช่วยขับพิษออกจากร่างกาย"
ไม่จริง เพราะเหงื่อคือของเหลวเย็นที่ร่างกายขับออกมาทางผิวหนังเพื่อระบายความร้อน เหงื่อจะประกอบด้วยน้ำและแร่ธาตุที่อยู่ในร่างกายเรา แต่ไม่ใช่พิษตกค้าง หรือเชื้อโรคใด ๆ มันเป็นเพียงน้ำเสียที่มีกลิ่นเหม็นเท่านั้น แต่อวัยวะสำคัญที่ช่วยในการขับสารพิษออกจากร่างกายนั่นคือตับและไต หากมีสารพิษหรือโลหะหนักสะสมในร่างกาย ตับและไตต้องทำงานหนักมากเพื่อขับพิษที่สะสมออกมาทางปัสสาวะ
ความเชื่อที่ 6 "ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว"
ไม่จริง เพราะตามข้อกำหนดของสภาโภชนาการในสหรัฐ ได้แนะนำผู้บริโภคว่า "ในหนึ่งวันควรบริโภคของเหลวโดยเฉลี่ยให้ได้ประมาณ 8 แก้ว (หรือ 64 ออนซ์)" ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่าต้องดื่มน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว เพราะอันที่จริงในอาหารจำพวกผักและผลไม้ก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักอยู่แล้ว และเมื่อคำนวณปริมาณน้ำจากผักและผลไม้ที่ได้ในแต่ละมื้อ ก็นับว่ามีปริมาณน้ำโดยรวมเทียบเท่ากับการดื่มน้ำเปล่ารวม 64 ออนซ์ได้เช่นกัน หรืออาจจะมากกว่าด้วย
แหล่งอ้างอิง เว็บไซต์กระปุกดอทคอม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ตอน 37 ลาก่อนทองแดง
ตอน 36 อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...

-
ใครที่นึกเบื่อตลาดติดแอร์ แต่ชื่นชอบตลาดเปิดท้ายรวมถึงของขายแบกกะดินราคาถูก หรือร้านขายตามล็อกหลากหลายแนว มาทอดน่องช็อปให้เพลินที่ "ต...
-
การจ่ายเงินรายได้ไม่ครบถ้วน ว่าจริงๆ แล้วเงินที่ทางผู้จ้างได้จ่ายให้ผู้รับจ้างไม่ครบนั้น เพราะว่าทางผู้จ้างได้หักภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น