วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ฉลาดเลือกกินน้ำมัน (Wellbeing & Health MODERNMOM)

ในหนึ่งวันที่ยุ่งเหยิง เวลาที่จะหันมาสนใจดูแลตัวเอง ก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว หากเลือกใช้น้ำมันในการปรุงอาหารหรือรับประทานเสริมก็มีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพให้หายยุ่งเหยิง ทั้งยังช่วยบำบัดโรคได้อีกด้วย

น้ำมันปรุงอาหารชั้นดี
ลองเดินโฉบไปดูในครัวรับรองว่าต้องมีน้ำมันพืชตั้งอยู่สักขวดสองขวดเป็นแน่ เพราะเราเป็นประเทศนิยมทำ และในปัจจุบันน้ำมันใช้ประกอบอาหารก็มีให้เลือกหลากหลายชนิด และก็มีคุณประโยชน์แตกต่างกัน แต่จะขอไม่พูดถึงน้ำมันปาล์มและน้ำมันมะพร้าว เพราะว่าน้ำมันสองชนิดนี้มีกรดไขมันอิ่มตัวอยู่มาก ซึ่งจะเกิดโทษต่อร่างกายมากกว่าเกิดประโยชน์

น้ำมันรำข้าว
เป็นน้ำมันที่ได้จากกระบวนการพิเศษในการสกัดเอาสารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์นานาชนิด ซึ่งมีอยู่ในเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวและจมูกข้าว จึงอุดแล้วสารอาหารสำคัญทางธรรมชาติ และมีคุณค่าสูงต่อร่างกายหลายชนิด

  • สารอาหาร
    1. กลุ่มกรดไขมันโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3
    2. กลุ่มวิตามิน B-Complex
    3. กลุ่มแกมมา-ออไรซานอล
  • ประโยชน์
    1. ต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่า
    2. ลดอัตราการเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้
    3. ช่วย Working Mom ในการลดความเครียด และรักษาความผิดปกติของสตรีวัยทอง
น้ำมันถั่วเหลือง
ผลิตจากเมล็ดถั่วเหลือง เป็นน้ำมันพืชที่นิยมใช้มากที่สุด เหมาะสำหรับการทำอาหารแทบทุกประเภท เพราะมีรสเป็นกลาง ที่ดีควรเลือกที่ "ไม่ใส่สารกันหืน"
  • สารอาหาร
    1. วิตามินเอ
    2. วิตามินอี
    3. กรดไขมันโอเมก้า-3
  • ประโยชน์
    1. มีความสำคัญต่อเซลล์สมองและเซลล์ประสาท
    2. ควบคุมระดับฮอร์โมนเพศหญิง
น้ำมันมะกอก
ได้จากการบีบด้วยแรงดันต่ำ ผลมะกอกมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวมากที่สุด มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน เป็นน้ำมันที่มีหลายเกรด และแต่ละเกรดก็สามารถนำไปประกอบอาหารได้ดีแตกต่างกันไป เช่น Extra Virgin สีค่อนข้างเขียว กลิ่นแรง และ Pure Olives Oil, Refined Olives Oil จะมีกลิ่นอ่อนกว่า สีจางกว่า
  • สารอาหาร
    1. วิตามินเอ
    2. เบต้าแคโรทีน
    3. สารต้านอนุมูลอิสระ
  • ประโยชน์
    1. ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว
    2. ช่วยให้ระบบการทำงานของส่วนต่าง ๆ ในร่างกายดีขึ้น
    3. ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุ และแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น
    4. ต้านอนุมูลอิสระ
น้ำมันดอกทานตะวัน
ได้จากการบีบอัดเมล็ดทานตะวันเป็นน้ำมันที่มีเนื้อบางเบาและไร้กลิ่น เหมาะทำสลัดและการผัด แต่ไม่เหมาะสำหรับการทอด
  • สารอาหาร
    1. กรดไลโนเลอิก
    2. กรดไขมัน CLA
  • ประโยชน์
    1. ป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด
    2. ต้านอนุมูลอิสระ
    3. ป้องกันการเป็นหมัน การแท้ง
    4. ช่วยในการเผาผลาญไขมันสะสม
น้ำมันข้าวโพด
ได้จากการบีบเอ็มบริโอของข้าวโพด หรือสกัดน้ำมันด้วยตัวทำละลาย จะเริ่มมีกลิ่นของข้าวโพดเล็กน้อยเมื่อได้รับความร้อน เหมาะกับการทอดที่ใช้น้ำมันมากเพราะทนความร้อนสูงที่สุด

  • สารอาหาร
    1. วิตามินอี
    2. กรดไลโนเลอิก
    3. แกรมม่า-โทโคฟิรอล
  • ประโยชน์
    1. ลดการเกิดโรคหัวใจโคโรนารี
น้ำมันงา
ได้จากการกรองเมล็ดงาบด หรือสกัดโดยใช้การบีบอัดร่วมกับตัวทำละลาย 1 ชนิด ได้แก่ น้ำมันงาที่มีสีเขียวอมเหลือง นิยมใส่เพื่อลดกลิ่นคาวในปลาหรืออาหารทะเลที่จะนำไปต้มหรือลวกได้ดี เพราะทนความร้อนแทบไม่ได้เลย
  • สารอาหาร
    1. กรดไขมันไลโนเลอิก
  • ประโยชน์
    1. ลดความดันโลหิต
    2. ชะลอความแก่
    3. ลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง
น้ำมันคาโนล่า
ได้จากการสกัดเมล็ดคาโนล่าหรือเมล็ดเรพเป็นน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำที่สุดในบรรดาน้ำมันทั้งหลาย และมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวมากเป็นอันดับสอง รองจากน้ำมันมะกอกสามารถทำอาหารได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะทอด ผัด หรือทำน้ำสลัด
  • สารอาหาร
    1. กรดไขมันโอลิอิก
    2. Omega 3 และ Omega 6
  • ประโยชน์
    1. ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด
น้ำมันเมล็ดฝ้าย
สกัดจากเมล็ดฝ้ายหลังจากที่แยกเอาเส้นใยออกไปแล้ว น้ำมันเมล็ดฝ้ายใช้เป็นน้ำมันปรุงอาหาร
  • สารอาหาร
    1. วิตามินอี
    2. กรดไขมันโอลิอิก
  • ประโยชน์
    1. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
    2. ชะลอการเสื่อมของเซลล์
น้ำมันดอกคำฝอย
สกัดจากเมล็ดคำฝอย ลักษณะคล้ายกับเมล็ดทานตะวัน ได้รับความนิยมในผู้ที่บริโภคอาหารมังสวิรัติและอาหารเพื่อสุขภาพ
  • สารอาหาร
    1. กรดไลโนเลอิก
    2. เบต้าแคโรทีน
  • ประโยชน์
    1. ลดเอนไซม์ที่ใช้ในการสังเคราะห์กรดไขมัน
น้ำมันเสริมเพิ่มสุขภาพ
นอกจากน้ำมันที่นำมาใช้ในการประกอบอาหารแล้ว ในปัจจุบันนี้ยังมีการสกัดน้ำมันชนิดต่างๆ ให้อยู่ในรูปของแคปซูล เพื่อความสะดวกในการรับประทานเป็นอาหารเสริมเพื่อทดแทนในมื้อต่างๆ ที่คุณอาจจะไม่ได้ปรุงอาหารเอง

น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส สกัดจากฝักของดอกอีฟนิ่งพริมโรส
  • สารอาหาร
    1. กรดไลโนเลอิก
    2. กรดแกมมาไลโนเลอิก
  • ประโยชน์
    1. เหมาะกับคุณผู้หญิงเชียวค่ะ เพราะช่วยลดอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนและหลังประจำเดือน
น้ำมันปลา สกัดจากเนื้อปลา หนัง หัว และหาง ของปลาทะเลน้ำลึก
  • สารอาหาร
    1. โอเมก้า 3, โอเมก้า 6
    2. EPA
    3. DHA
  • ประโยชน์
    1. ช่วยลดระดับของไตรกลีเซอไรด์ในเลือด
    2. ช่วยเสริมพัมนาการจอตาและสมองของเบบี๋ได้
น้ำมันตับปลา สกัดจากตับของปลาทะเล
  • สารอาหาร
    1. วิตามินเอ
    2. วิตามินดี
  • ประโยชน์
    1. ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมรวมทั้งฟอสฟอรัส
    2. สำหรับเด็กเมื่อให้รับประทานจะช่วยในการเจริญเติบโต

อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกซื้อน้ำมันที่ใช้ในครัวนั้น ควรดูในเรื่องของจุดเกิดควัน (Smoking Point) ของน้ำมันด้วย เพราะหากถูกทำให้ร้อนเกินกว่าจุดเดือด น้ำมันจะเป็นพิษ (Toxin) และมีอันตรายต่อร่างกายได้

ชนิดของน้ำมัน

กรดไขมันไม่อิ่มตัว เชิงเดี่ยว กรดไขมันไม่อิ่มตัว เชิงซ้อน จุดเดือดเป็นควัน (องศาเซลเซียส)

น้ำมันมะกอก 77 9 161
น้ำมันคาโนล่า 61 36 204
น้ำมันรำข้าว 45 37 250
น้ำมันข้าวโพด 20 62 231
น้ำมันถั่วเหลือง 23 60 231
น้ำมันเมล็ดฝ้าย 22 27 230
น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน 21 67 232

แหล่งอ้างอิง เว็บกระปุกดอสคอม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...