วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2555

ลดภาษีกิจการขนาดย่อม

การลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลและยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่ “บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดย่อม” ซึ่งเดิมจะหมายถึง บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย โดยมีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท แต่ตามกฎหมายใหม่เพิ่มเงื่อนไขเกี่ยวกับการมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาทด้วย จึงจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิในส่วนที่ไม่เกิน 150,000 บาท และได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิในส่วนที่เกิน 150,000 บาทแต่ไม่เกิน 1 ล้านบาทลงเหลือ 15% และกำไรสุทธิในส่วนที่เกินกว่า 1 ล้านบาท ให้เสียในอัตรา 23% สำหรับรอบบัญชีปี 55 และลดลงเหลือ 20% สำหรับรอบบัญชีปี 56 เป็นต้นไป

คำว่า “รายได้จากการขายสินค้า” หมายถึง รายได้จากการขายสินค้า ที่เป็นทรัพย์สินที่มีรูปร่างและไม่มีรูปร่างที่อาจมีราคาและถือเอาได้ ที่มีไว้เพื่อขายเท่านั้น ไม่รวมถึงการขายทรัพย์สินที่มีไว้ในการประกอบกิจการ หรือเพื่อการอื่นใดที่มิใช่เพื่อการขาย ทั้งนี้ ไม่ว่าจะกระทำการใดๆ ดังนี้
  1. การจำหน่าย จ่าย หรือโอนสินค้า โดยมีหรือไม่มีประโยชน์หรือค่าตอบแทน และให้หมายความรวมถึงสัญญาให้เช่าซื้อสินค้า
  2. การสัญญาซื้อขายผ่อนชำระที่กรรมสิทธิ์ในสินค้ายังไม่โอนไปยังผู้ซื้อเมื่อมีการส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้ซื้อแล้ว หรือ
  3. การส่งสินค้าออกนอกราชอาณาจักร
คำว่า “รายได้จากการให้บริการ” หมายถึง รายได้จากการกระทำใด ๆ อันอาจหาประโยชน์อันมีมูลค่าซึ่งมิใช่เป็นการขายสินค้าของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล กฎหมายจะมุ่งพิจารณาเฉพาะประเด็นการให้บริการ ไม่ใช่การตีความอย่างแคบว่า หากไม่ใช่การขายสินค้า ก็ให้ถือเป็นการให้บริการทั้งสิ้น แม้ธรรมชาติการกระทำนั้น จะไม่ใช่การให้บริการ หากเป็นกฎหมายพิเศษที่มุ่งเน้นการให้บริการอย่างแท้จริง

ดังนั้น รายได้จากการขายทรัพย์สินที่มิใช่การขายสินค้า รายได้จากเงินปันผล หรือเงินส่วนแบ่งของกำไร กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นรายได้เนื่องจากกิจการปกติทั่วไป ซึ่งมิได้มีการประกอบกิจการธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน หลักทรัพย์ หรือเครดิตฟองซิเอร์ หรือกิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ ค่าปรับเนื่องจากการผิดสัญญา เงินอุดหนุนหรือเงินช่วยเหลือให้เปล่า รางวัล ส่วนลด หรือประโยชน์ใด ที่ได้จากการส่งเสริมการขาย รางวัลจากการประกวดแข่งขันหรือชิงโชค ย่อมไม่อยู่ในส่วนของรายได้จากการขายสินค้าหรือให้บริการจำนวน 30 ล้านบาท

นอกจากนี้ หากในรอบระยะเวลาบัญชีใดกิจการดังกล่าวมีทุนเรียกชำระแล้วเกินกว่า 5 ล้านบาทหรือมีรายได้เกินกว่า 30 ล้านบาท ก็ให้หมดสิทธิที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลตลอดไป จะหวนกลับมาได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรอีกไม่ได้

แหล่งที่มา    เว็บไซต์เดลินิวส์ วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 00:00 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...