วันนี้ (8 พ.ค. 2555) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ผลงานวิจัยของสหรัฐระบุว่า ผู้ที่ต้องขับรถเป็นระยะทางไกลเพื่อเดินทางไปทำงาน มีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักเกิน และสุขภาพย่ำแย่กว่าผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้ที่ทำงานมากกว่า
น.ส. คริสติน เฮอร์เนอร์ หัวหน้าทีมวิจัยในเรื่องดังกล่าว จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี กล่าวถึงผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารด้านเวชศาสตร์ป้องกันของสหรัฐ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างเกือบ 4,300 คน อาศัยอยู่ในเมืองดัลลัส ฟอร์ตเวิร์ธ และออสติน ในรัฐเทกซัส ซึ่งล้วนแล้วแต่ติดอันดับพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในสหรัฐ พบว่า ผู้ที่ต้องขับรถเป็นระยะทางไกลเพื่อเดินทางไปทำงาน มีรอบเอวที่ใหญ่ขึ้น ระดับการไหลเวียนโลหิตต่ำกว่ามาตรฐาน แต่ระดับความดันโลหิต และค่าดัชนีมวลกายสูงกว่าปกติ
ทั้งนี้ น.ส.เฮอร์เนอร์ และทีมงานเชื่อว่า ยิ่งเสียเวลาในการเดินทางมากขึ้นเท่าไหร่ ก็เท่ากับว่าร่างกายต้องใช้พลังงานมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ที่ทำงานไกลบ้าน หรือในระยะทางมากกว่า 24 กิโลเมตร มักพบกับความเหนื่อยล้า จนไม่อยากไปออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมเกี่ยวกับสุขภาพ ซึ่งตรงข้ามกับผู้ที่ทำงานใกล้บ้าน
แหล่งที่มา เว็บไซต์เดลินิวส์ วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม 2555 เวลา 14:26 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น