อันที่จริงแล้ว ประเทศที่บริโภคน้ำมันแพงที่สุด ไม่จำเป็นว่าประชาชนจะเดือดร้อนมากที่สุด
หากลองเปรียบเทียบกับรายได้เฉลี่ยของประชาชน
10 อันดับประเทศที่ซื้อน้ำมันแพงที่สุดในโลก ได้แก่
อันดับ 1 นอร์เวย์ เป็นประเทศที่บริโภคน้ำมันแพงสุด มีราคาน้ำมันเกรดดีอยู่ที่แกลลอนละ 9.69 ดอลลาร์ หรือประมาณ 300.39 บาท
อันดับ 2 เดนมาร์ก ราคาอยู่ที่ 9.37 ดอลลาร์
อันดับ 3 อิตาลี และ เนเธอร์แลนด์ แพงเท่ากันที่ 9.35 ดอลลาร์
อันดับ 5 กรีซ 9.23 ดอลลาร์
อันดับ 6 สวีเดน 8.97 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
อันดับ 7 ฮ่องกง 8.89 ดอลลาร์
อันดับ 8 โปรตุเกส 8.85 ดอลลาร์
อันดับ 9 อังกฤษ 8.84 ดอลลาร์
อันดับ 10 เบลเยี่ยม 8.82 ดอลลาร์
สำหรับประเทศที่ต้องรับภาระหนักที่สุดเมื่อคำนวณรายได้ เปรียบเทียบกับราคาน้ำมันที่ต้องควักจ่าย เมื่อเฉลี่ยแล้ว ทำให้ประชาชนต้องจ่ายเงินค่าน้ำมันในราคาสูง ได้แก่
- "อินเดีย" ที่ราคาน้ำมันอยู่ที่ 6.06 ดอลลาร์ต่อแกลลอน (ประมาณ 3.8 ลิตร) หรือประมาณ 187.86 บาท ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อวันในอินเดียอยู่ที่ 4.50 ดอลลาร์ หรือ 139.5 บาท
- ไนจีเรีย ต้องรับภาระหนักสำหรับราคาพลังงานมาเป็นอันดับ 2 ราคาน้ำมันอยู่ที่ 2.33 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ถึงแม้ราคาถูกมาก แต่รายได้เฉลี่ยต่อวันของคนไนจีเรียอยู่ที่ 4.37 ดอลลาร์
- อินโดนีเซีย ราคาน้ำมันอยู่ที่ 4.11 ดอลลาร์ แต่รายได้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 10 ดอลลาร์
- จีน ประเทศมหาอำนาจ ซึ่งก็ประสบปัญหาเช่นกัน ราคาน้ำมันขายที่ 5.31 ดอลลาร์ ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 16 ดอลลาร์
- บัลแกเรีย ซึ่งน้ำมันขายอยู่ที่ 6.94 ดอลลาร์ ขณะที่รายได้เฉลี่ยแต่ละวันอยู่ที่ 21 ดอลลาร์
- ไทย ติดอันดับประเทศที่ต้องเจ็บหนักจากพิษน้ำมัน โดยราคาน้ำมันอยู่ที่ 4.96 ดอลลาร์ต่อแกลลอน หรือราว 153.76 บาท (เฉลี่ยลิตรละ 40 บาท) แต่มีรายได้เฉลี่ยต่อวันราว 16 ดอลลาร์ (496 บาท)
- โรมาเนีย ราคาน้ำมัน 6.59 ดอลลาร์ รายได้เฉลี่ย 26 ดอลลาร์
- แอฟริกาใต้ ราคาน้ำมันอยู่ที่ 5.72 ดอลลาร์ มีรายได้เฉลี่ยต่อวัน 24 ดอลลาร์
- ลัตเวีย ราคาน้ำมันอยู่ที่ 7.26 ดอลลาร์ มีรายได้เฉลี่ย 35 ดอลลาร์
- อียิปต์ ราคาน้ำมันอยู่ที่ 1.73 ดอลลาร์ มีรายได้เฉลี่ย 8.53 ดอลลาร์
แหล่งที่มา เว็บไซต์สนุกดอทคอม 15 พ.ค. 55 14.38 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น