"ความไว้ใจ" เป็นสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ ใครอยากได้ต้องสร้างเอาเอง สร้างได้แล้วก็ต้องดูแลรักษาเป็นอย่างดีตลอดชีวิต เพราะความไว้ใจมีความเปราะบางมาก เหมือนกระจกที่มีรอยร้าว เอาเทปกาวมาแปะไว้ก็ยังเห็นรอย
ลองนึกว่า
- หากมีเพื่อนคนหนึ่งที่เคยมีประวัติยืมเงินเราแล้วไม่คืน จะมาขอยืมอีก เราจะไว้ใจได้ไหม? เราอาจจะยกโทษให้เพื่อนได้กับความผิดในอดีต แต่ความไว้ใจมันหมดไปแล้ว เรียกคืนไม่ได้
- เวลาเจอกับนักการเมืองที่มีประวัติทุจริตคอร์รัปชั่น (ขอย้ำอีกครั้งว่ามีทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าพรรคใดเป็นรัฐบาล) เราจะไว้ใจให้เข้ามาบริหารประเทศไหม? ต่อให้ยกโทษให้ คือไม่ติดใจเอาผิดกัน แต่ความไว้ใจมันหมดไปแล้ว เรียกคืนไม่ได้ จริงไหม
ในทำนองเดียวกัน ความไม่ไว้ใจกันที่เกิดจากการทุจริตคอร์รัปชั่นก็ทำให้ระบบราชการมีกฎระเบียบ+ขั้นตอนที่ยุ่งยากเพื่อป้องกันไม่ให้คนโกง ทำให้ข้าราชการที่ทำงานแบบสุจริตก็ต้องทำงานยากขึ้น เวลาประชาชนมาติดต่อราชการก็ใช้เวลานานขึ้น และที่สำคัญ คือ ทำให้เราสูญเสียข้าราชการที่ 'เก่ง' และ 'ดี' ไปเป็นจำนวนมาก หลายคนถอดใจเพราะเบื่อขั้นตอนที่ยุ่งยาก หลายคนถอดใจเพราะ 'ต้าน' แรงทุจริตคอร์รัปชั่นไม่ไหว
เท่าที่คุยกับเพื่อนข้าราชการรุ่นใหม่ที่ยังอยู่ในระบบ สิ่งที่เราทำกันคือ ท่องคาถาไว้เสมอว่า ... อดทน อดทน อดทน ...และทำงานราชการโดยยึดหลักคุณธรรมและจริยธรรม ตามรอยเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ปล. ฝรั่งมีคำพูดว่า Trust takes years to build, seconds to break, forever to repair
แหล่งที่มา Facebook : SSO Savings Club โดย วิน พรหมแพทย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น