วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกปี 2011

ผลการสำรวจค่าครองชีพล่าสุดจาก 140 เมือง ใน 93 ประเทศทั่วโลก ของ Economist Intelligence Unit (EIU) หรือองค์กรวิเคราะห์และคาดการณ์สถานการณ์ระดับโลก โดยนิตยสารวิเคราะห์ธุรกิจ The Economist

จากการสำรวจราคาของสินค้าและบริการกว่า 160 อย่างที่เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย สกุลเงินฟรังก์ของสวิตเซอร์แลนด์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่าครองชีพสูงพุ่งขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากความไว้วางใจจากเหล่านักลงทุนในเงินสกุลฟรังก์ที่กล่าวว่า สวิสเป็นเหมือน "สถานที่ปลอดภัย" โดยต่างพร้อมใจเปลี่ยนเงินยูโรเป็นเงินฟรังก์ หลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรป นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายใน อาทิ อัตรานำเข้าสินค้าที่น้อยและเศรษฐกิจที่คงที่ทำให้เงินเฟ้อต่ำ

เมืองที่มีค่าครองชีพแพงทะลุฟ้า
อันดับ 1 ซูริก-สวิตเซอร์แลนด์ ชีสฟองดู 9.90 สวิสฟรังก์ (333 บาท)
อันดับ 2 กรุงโตเกียว-ญี่ปุ่น ซูชิ 120 เยน (47.50 บาท)

 

อันดับ 3 กรุงเจนีวา-สวิตเซอร์แลนด์ และ โอซากา-ญี่ปุ่น ร่วมกัน

อันดับ 5 กรุงออสโล-นอร์เวย์ แซลมอน (1 กก.) 24.54 โครน (132 บาท)
อันดับ 6 กรุงปารีส-ฝรั่งเศส ไวน์ชั้นดี 30 ยูโร (1,200 บาท)


อันดับ 7 ซิดนีย์-ออสเตรเลีย
อันดับ 8 เมลเบิร์น-ออสเตรเลีย
อันดับ 9 สิงคโปร์ ถือเป็นตัวแทนชาติเอเชียที่ติดอันดับ
อันดับ 10 แฟรงก์เฟิร์ต-เยอรมนี

เมืองที่มีค่าครองชีพต่ำที่สุดในโลก
ส่วนมากอยู่ในแถบตะวันออกกลาง ได้แก่ กรุงเตหะราน-อิหร่าน, มุมไบ-อินเดีย และ การาจี-ปากีสถาน ซึ่งเมืองเหล่านี้ ล้วนเป็นเมืองเศรษฐกิจเฟื่องฟูของประเทศเช่นกัน แต่ราคาสินค้ายังไม่เสถียรเท่าประเทศอันดับต้นๆ เพราะค่าเงินที่เทียบเคียงอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลดอลล่าร์ของสหรัฐ

แหล่งที่มา  นสพ. M2F วันพุธที่ 15 ก.พ. 55 (087)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอน 37 ลาก่อนทองแดง

ตอน 36   อ่านตอนสามสิบหก เรื่อง "ลาก่อนพ่อสิงโต...พ่อหมาใจดี...." ได้ที่นี่ ทองแดงเริ่มไม่ทานข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 ช่วงนั...