เทศกาลต่าง ๆ ในฤดูหนาวของยุโรป ดูเหมือนจะสร้างความครึกครื้นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเทศกาลจัดแสงไฟ ที่คึกคักมากเป็นพิเศษ และวันนี้เราขอพาเพื่อน ๆ ไปที่เมืองเกนท์ ประเทศเบลเยี่ยม เพราะที่นี่ในทุก ๆ 4 วันสุดท้ายของเดือนมกราคม ชาวเมืองจะหลีกหนีความซบเซาในฤดูหนาว แล้วออกมาเฉลิมฉลองเทศกาลแสงไฟกันบริเวณใจกลางเมืองที่สวยงามตระการตา
นายคาท เเฮร์แบรนท์ ผู้จัดงานเทศกาลแสงไฟของเมืองเกนท์ ปี 2012 กล่าวว่า ทางผู้จัดได้นำแสงไฟและความครึกครื้นมาเติมเต็มชีวิตของผู้คนในเมืองทุก ๆ ปี ระหว่างวันที่ 26 - 29 มกราคม ซึ่งงานนี้ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลแสงไฟที่ใหญ่ที่สุดในทวีป โดยเทศกาลไฟแสงไฟที่ใหญ่ที่สุดนั้น มีชื่อว่า Fête de Lumières' จัดขึ้นในเมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส
ทั้งนี้ เทศกาลแสงไฟเมืองเกนท์ ได้มีการตกแต่งถนนและจตุรัสกลางเมือง ด้วยดวงไฟจำนวนมาก และยังมีการจัดนิทรรศการกว่า 30 แบบที่สื่อถึงความสุขและเสียงเพลง อย่างเช่น โบสถ์ขนาดใหญ่ในเมืองยาวไปจนถนนเบลฟอร์ท ถูกประดับประดาด้วยไฟแบบ LED กว่า 55,000 ดวง ซึ่งบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดแสงไฟอย่าง Luminarie De Cagna ของอิตาลี ได้จัดตกแต่งแนวต้นไม้ของเมืองด้วยไฟจำนวนหลายล้านดวง โดยเฉพาะซุ้มประตูโค้งของโบสถ์แห่งหนึ่ง ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบเรเนสซองก์และแบบโรมันเนสก์ ซึ่งสูงกว่า 28 เมตร ก็ถูกประดับด้วยแสงไฟและมีสีสันแตกต่างกันมากมาย จนดูคล้ายกับหลุดเข้าไปในความฝันเลยทีเดียว โดยมีรถสาธารณะที่สามารถรับส่งผู้คนให้ไปถึงทั้ง 2 ที่ แต่ส่วนใหญ่ ผู้คนจะใช้วิธีการเดินมากกว่า และทางเมืองยังเพิ่มที่จอดจักรยานเพื่อรองรับผู้ที่จะมาร่วมงานอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า การจัดแสดงแสงสีแบบนี้ จะใช้พลังงานไฟฟ้าไปจำนวนมาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ภายในงาน จะมีการปิดไฟบางดวงบ้าง และไฟแบบ LED ที่ใช้ก็เป็นแบบประหยัดพลังงาน ไฟกว่า 55,000 ดวงนั้น ใช้พลังงานไปเพียง 20 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง และจุดประสงค์อย่างหนึ่งของเทศกาลนี้คือ เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้คนให้หันมาตระหนักถึงการใช้พลังงาน และทางเมืองเกนท์เอง ก็ได้มีแผนลดการใช้พลังงานลง 11 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี 1999 ซึ่งเน้นหนักไปที่การปิดไฟ
แหล่งที่มา เว็บไซต์กระปุกดอทคอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น