1. เราเป็นใคร ไม่ใช่แค่บอกชื่อ หรือ อาชีพปัจจุบันเท่านั้น แต่ให้นิยามตัวเองสั้นๆ เป็นคนอย่างไร ความชอบส่วนตัว หรือมีอะไรที่โดดเด่น
2. หาข้อดีข้อเสีย
แต่ละคนก็คงพอรู้ข้อเสียของตัวเองอยู่บ้าง เช่น ขี้เกียจ ใจร้อน ชอบมาสาย เป็นต้น ถ้านึกไม่ออก หรือ อยากให้ครอบคลุมจริงๆ คิดถึงสิ่งที่พ่อแม่ เพื่อน หรือ เจ้านายเคยพูด สังเกตดู หากเป็นจริงก็๋เขียนลงไปในลิสต์ ส่วนข้อดีก็อย่าเผลอเข้าข้างตัวเอง การแยกข้อดีข้อเสียออกมาจะทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้นไปอีกขั้น
3. ยอมรับข้อเสีย
เมื่อมีข้อด้อยอยู่บ้างก็จงยอมรับในสิ่งที่เป็น จริงอยู่ ว่ามันอาจทำให้ปวดใจ แต่สิ่งที่เราเป็นไม่ว่าจะดีหรือแย่แค่ไหน ก็ล้วนแสดงถึงความเป็นเรา เพราะเมื่อใดที่ยอมรับตัวเองแล้ว ก็จะกล้าเผชิญหน้ากับความจริงได้อีกมากมาย ข้อเสียที่ปรับปรุงได้ก็ควรแก้ไข แต่เรื่องไหนที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เช่น ความสูง สีผิว หรือชาติตระกูล ฯลฯ ก็ยอมรับความจริงจะดีกว่า
ข้อดีของตัวเองเป็นเหมือนพลังใจทำให้เราภูมิใจิและมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เช่น "ถึงฉันจะไม่มีคนรัก แต่ฉันก็มีหน้าที่การงานที่ดี" ข้อดีที่อยู่กับตัวก็เก็บรักษาเอาไว้ และเผื่อแผ่ความดีนั้นให้คนรอบข้างบ้าง อย่ามัวแต่กลัวว่าทำดีแล้วจะถูกเขม่น
5. พกความมั่นใจ
รู้จักตัวเองแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ พกพาความมั่นใจ สังเกตดูสิว่าคนสวยและคนเก่งมีพื้นฐานอย่างเดียวกัน คือ ความมั่นใจ เมื่อใดที่มั่น รับรองว่าคุณจะรู้สึกมีความสุข สังเกตดูสิว่าวันไหนที่หน้าเป๊ะ ผมเป๊ะ แต่งตัวเริด งานทุกงานก็ฉิว
เลิกเปรียบเทียบตัวเอง กับ คนอื่น เชื่อเถอะว่า การไม่สบประมาทตัวเองจะทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น
ทุกคนบนโลกนี้ล้วนแตกต่างกัน อย่าทำตามคนอื่นไปเสียหมดจนไม่เหลือความเป็นตัวเอง ควรแสดงความเป็นตัวเองแบบค่อยเป็นค่อยไป พอดิบพอดี เพราะความเป็นตัวคุณ นี่ล่ะที่มีเสน่ห์มากที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น